หลักการเลือกคอมพิวเตอร์ Notebook ใช้งานทั่วไป

ช่วงนี้กระแสคอมพิวเตอร์แบบพกพาหรือว่า Notebook ในบ้านเรากำลังมาแรง มีการออกโปรโมชั่นใหม่ๆ ทั้งลดแลกแจกแถมเพื่อดึงลูกค้ากันอย่างมากมาย ซึ่งส่งผลดีต่อผู้ชื้อที่มีทางเลือกมากขึ้น อย่างไรก็ตามสำหรับบทความวันนี้ผมจะขอเขียนถึงหลักการหรือแนวทางในการพิจารณาเลือกชื้อโน้ตบุ้ตเพื่อใช้งานกับเราสักเครื่อง โดยผมสมมุติให้มีข้อจำกัดที่วงเงินไม่เกิน 25,000 บาท และความต้องการนำมาใช้งานก็ ใช้งานทั่วไป เช่น พิมพ์งาน ดูหนังฟังเพลง เกมส์ อินเตอร์เน็ต บรรยายสรุป นำเสนอ ฯลฯ หลังจากเราทราความต้องการและงบประมาณของเราแล้ว ต่อไปเรามาลองพิจารณาว่าจะชื้อเครื่องแบบไหนดีครับ


หลักการเลือก 

งบประมาณ
ความต้องการใช้งาน ตัดต่อ ใช้งานทั่วไป เกมส์3D
ยี่ห้อแบรนเนม หรือโลคอลแบรน Acer ,Dell HP
สเปก ซีพียู แรม ฮาร์ดดิกส์ SSD 
ความกว้างหน้าขอ
น้ำหนัก 
แบตเตอรรี่ 
พอรต์การเชื่อมต่อ HDMI USB3.0 LAN WIFI 
ระบบปฏิบัติการ :Windows10 Home หรือ Pro 




1 What's brand? ยี่ห้อไหนดี? ข้อนี้เหมือนง่ายแต่ยาก ในวงเงินที่กำหนดมาไม่เกิน 25,000 บาท เท่าที่ผมตรวจสอบ spec แล้วพบว่าสามารถชื้อได้เกือบทุกยี่ห้อเลยครับ เช่น Acer , Asus , Compaq, HP, Dell, Toshiba และ อื่นๆ ส่วนตัวผมแล้วยี่ห้อไหนก็ได้อยู่ที่ความชอบของเรา ยกตัวอย่างเช่น มีการอ้างสถิติว่า Acer ครองยอดตลาดและจำหน่ายสูงสุดในบ้านเรา สังเกตจากผู้ใช้งาน และสถานที่จำหน่ายหรือศูนย์บริการของ Acer ที่จะมีกระจายให้บริการคลอบคลุมพื้นที่สำคัญๆ ของประเทศไทย ไว้เกือบหมด ก็เป็นข้อเด่นของ Acer ในเรื่องของการบริการหลังการขาย หากเครื่องมีปัญหา และต้องการเข้าตรวจซ่อมตามระยะประกันก็สามารถทำได้สะดวกตามศูนย์บริการที่กระจายตัวอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ได้โดยตรง อย่างไรก็ตามในส่วนของแบรนอื่นๆ เช่น Asus หรือ Compaq ก็มีตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการกระจายตัวอยู่ตามเมืองต่างๆ มากเช่นกัน จึงเป็นอีกทางเลือกของผู้ใช้งานที่อาจจะไม่ต้องการ Acer ก็เป็นไปได้ครับ สรุปเอาเป็นว่ายี่ห้อไหนก็ได้ตามที่กล่าวมาข้างต้นดีทั้งนั้นครับ อยู่ที่ความชอบส่วนตัวของเราและการประกันหลังการขายเช่น 1 ปี หรือ 3 ปี เป็นต้น และบางยี่ห้อ เช่น HP การบริการหลังการขายในปีแรก จะเป็นแบบ On site service กล่าวคือผู้บริการจะให้บริการเราถึงบ้านเลย โดยเราสามารถโทรไปแจ้งช่างให้มาตรวจสอบเครื่องของเราได้เลย (รายละเอียดเพิ่มเติมสอบถามตัวแทนจำหน่าย)

2 ผ่านเรื่องของ Brand หรือ ยี่ห้อแล้ว ประการต่อมาก็คือเรื่องของหน่วยประมวลผล CPU นั้นเอง ซึ่งก็จะมีให้เลือกหลักๆ ก็คือ CPU ของ Intel และ AMD ซึ่งทั้งสองแบบก็สามารถใช้งานได้ดีไม่แพ้กัน อาจจะเคยมีคนกล่าวไว้ว่า CPU ของ ADM ความร้อนจะสูงมากกว่าของ INTEL ถ้าใช้งานนานๆ ไม่ส่งผลดีแน่ ซึ่งก็เป็นจริงในอดีต ปัจจุบัน CPU ของ AMD ได้ปรับปรุงแก้ไขข้อด้อยดังกล่าวจนสามารถทำงานได้เท่ากับ CPU ของอินเทลและดีกว่่าเสียด้วยซ้ำในบางรุ่น เอาเป็นว่าถ้าเรายึดติดและคิดว่า CPU ของอินเทล เหมือนวลีที่เคยกล่าวไว้ว่า อินเทลอินไซด์ Intel Inside ละก็แนะนำให้เลือกของ อินเทลครับ แต่ถ้าใครไม่ยึดติดอะไร AMD ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีครับ

Tips CPU ของค่ายอินเทล จะมีสองรหัสชื่อ ได้แก่ อินเทลเซอเลอรอน และ อินเทลเพนเที่ยม Intel celeron และ Intel pentium โดยในรหัสของ อินเทลเซอเลอรอน จะเป็น chip ประมวลผลคุณภาพปานกลางเจาะตลาดผู้ใช้งานระดับล่าง ส่วน อินเทลเพนเที่ยม Intel pentium จะเป็น chip ประมวลผลคุณภาพสูงที่มุ่งเจาะตลาดผู้ใช้งานระดับสูง เช่น นักออกแบบ ดีไซเนอร์ สถาปนิก เกมส์เมอร์ เป็นต้น ราคาของ CPU อินเทลเซอเลอรอนจะมีราคาถูกกว่า CPU Intel Pentium 2500-3500 บาท โดยประมาณ

Tips2 ปัจจุบัน CPU Intel Pentium ได้ออกรุ่นใหม่เป็น Core2 Dual ซึ่งหมายถึงประสิทธิภาพการทำงานเหมือนมี CPU ในเครื่องถึง 2 ตัว ซึ่งจะช่วยกันทำงานหรือแบ่งเบาภาระในการทำงานนั้นเอง เป็นแบบ Virtual CPU หรือว่าเสมือนนั้นเอง จริงๆ มันก็มีตัวเดียวครับ แต่ว่าได้รับการออกแบบให้ทำงานเหมือนสองตัวประมาณนั้น ถ้าสนใจจริงวันหลังจะหามาเพิ่มให้โดยเฉพาะเลยครับ โดยในราคาที่กำหนดมาให้เราสามารถชื้อ CPU ของ Intel pentium ได้ครับ




3 หน่วยความจำ RAM เป็นส่วนที่จะช่วยให้การทำงานของเครื่องเร็วขึ้น และสามารถใช้งานโปรแกรมหนักๆ เช่นการออกแบบ การเล่นเกมส์ 3 มิติ เป็นต้น ปัจจุบันมาตรฐานขั้นต่ำของ RAM ต้องอยู่ที่ 1 GB. ขึ้นไปครับ
4. Hard Disk ความจุพื้นที่ในการลงโปรแกรมและเก็บข้อมูล ปัจจุบันมีความจุสูงมากทั้งนี้เพื่อรองรับการติดตั้งและการเก็บข้อมูล หนัง เพลง เกมส์ และอื่นๆ อย่างน้อย 160 GB. ขึ้นไป

5 DVD DRIVE เครื่องอ่านแผ่น CD/DVD-RW ปัจจุบันจะต้องเป็นมาตรฐานของ CD/DVD-RW ที่สามารถอ่านเขียนบันทึกแผ่น CD/DVD ได้ทั้งหมด
6 VGA CARD หรือ การ์ดจอ ตัวนี้เป็นอีกหนึ่งข้อพิจารณาสำคัญ ง่ายๆ ถ้าโน้ตบุ้กราคาต่ำกว่า 25,000 ก็จะไม่มี VGA แยกมาให้ แต่จะเป็นชนิด On board หรือ Built in หรือ Embed หรือฝั่ง หรือติดมากับเมนบอร์ด mainboard หรือ Motherboard ในตัวอยู่แล้ว ซึ่งเรานิยมเรียกกันว่าการ์ดจอ on board โดยการ์ดจอแบบนี้จะแบ่งแรม แชร์แรม share Ram จาก Ram หลักของเครื่องไปใช้งานเพื่อแสดงผล ทำให้ประสิทธิภาพและความคมชัดของการ์ดจอแบบ on board ไม่ดีเท่าที่ควร ประมวลผลแบบ 3 D ไม่ได้ เล่นเกมส์ไม่มันหรือเล่นไม่ได้ เป็นต้น (คอเกมส์จะไม่เลือกเด็ดขาด) ส่วนการ์ดจอแบบแยกต่างหาก บ้านเราก็นิยมเรียกว่า การ์ดจอแยก ซึ่งแบบนี้จะมาพร้อมกับ Ram ในตัวเองเป็นจำนวน 256 หรือ 512 MB. เป็นต้น จึงไม่จำเป็นต้องไปแย่งหรือแบ่ง Ram หลักของเครื่องมาใช้ในการแสดงผล ทำให้การทำงานของเครื่องเร็วขึ้นอีกได้ การประมวลผลกราฟิคหนักๆ การนำเสนอไฟล์วีดีโอ การเล่นเกมส์ 3D สามารถรองรับได้ ดังนั้นในราคาที่จำกัดมา 25,000 ถ้าได้ VGA หรือการ์ดจอแยกก็จะดีครับ ....
4 ระบบเครือข่ายเช่น Wireless ต่อเน็ตไร้สาย ,LAN ต่อสายแลนแบบเคเบิ้ล,Bluetooth ไร้สายเชื่อมต่ออุปกรณ์ระยะใกล้ และต่อสัญญาณเน็ต ,Modem ส่งข้อมูลแบบเดิมๆ เอาเป็นว่าอุปกรณ์พวกนี้เป็นมาตรฐานถ้ามีครบทุกแบบการเชื่อมต่อก็จะดีมากครับ ปกติในราคา25000 บาทน่าจะต้องมีครบนะครับ
5 เอา Vat หรือ ไม่เอา Vat บางร้านหิ้วเข้ามา (ผมก็เคยชื้อ)มี options ไม่บวก Vat 7% ผิดกฎหมายหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่ตอนนั้นงบจำกัดจริงๆ ก็เลยชื้อจากร้านไม่เอา Vat ครับ ปัจจุบันเท่าที่สอบถามและทราบข้อมูลร้านจำหน่ายแบบไม่เอา Vat หายากหรือว่าหมดไปแล้วผมก็ไม่แน่ใจ เอาเป็นว่าถ้าใครสนใจก็ลองๆ เดินและสอบถามจากคนขายเอาเองครับ

6 ของแถม เช่น กระเป๋าสะพาย (น่าจะมาพร้อมตัวเครื่องอยู่แล้ว) เม้าส์, แป้นพิมพ์ต่อภายนอก ,USB Drive เป็นต้น รายละเอียดก็ลองๆ ดูจากใบโบรชัวร์หรือสอบถามจากคนขายอีกทีครับ



7 ระบบปฏิบติการหรือ Operating System หรือตัวย่อ OS นั้นเอง ปกติราคาต่ำกว่า 25000 บาทลงมาจะเป็นระบบ OS ของ ลีนุกซ์ Linux หรือ DOS นั้นเอง แบบนี้ผู้ใช้งานต้องไปให้ร้านคอมลงโปรแกรมวินโดว์ให้ภายหลัง(น่าจะเป็นแบบที่ขายดีที่สุดในบ้านเราครับ) ส่วนอีกแบบมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ ไลเซ้นต์ Licence หรือลิขสิทธ์ของแท้ Copyright ได้แก่ windows XP Home หรือ XP PRO หรือล่าสุดอย่าง WINDOWS7 แน่นอนว่าในราคา 25000 บาทคงไม่ได้ OS แบบนี้นะครับ หากอยากได้คงต้องเพิ่มเงินขึ้นไปอีกประมาณ 3000-5000 บาท ซึ่งว่ากันตามจริงทั้งสองแบบใช้งานได้เ่ช่นกัน แตมีข้อดีข้อเสียที่ต่างกันพอสมควร ซึ่งผมจะไม่ขอกล่าวถึงในบทความนี้ เอาเป็นว่าถ้าเรามีงบเพียงพอและไม่เดือดร้อนอะไรมากของถูกกฏหมายเป็นทางเลือกที่ดีครับ

8 บริการหลังการขายอันนี้ก็สำคัญ ระยะเวลาการรับประกันกี่ปี 1 ปี 2 หรือ 3 ปี ก็ว่ากันไป แตกต่างกันไปตามแบบชนิดหรือผู้ให้บริการครับ

สรุป หลักๆ ในการดูหรือตัดสินเลือกโน้ตบุ้กสักเครื่องเพื่อใช้งานของเรา ก็มีประมาณนี้ครับ สำหรับบทความนี้ก็เป็นเพียงแนวทางนึ่งในหลายๆ แนวทาง สำหรับผู้สนใจที่กำลังมองหาแนวทางหรือข้อมูลประกอบการพิจารณาตัดสินใจหาชื้อโน้ตบุ้กสักเครื่อง ผมก็หวังว่าข้อมูลนี้คงพอเป็นแนวทางได้บ้างไม่มากก็น้อย หากมีคำแนะนำติชมหรือสอบถามข้อมูลเพิมเติมก็ยินดีครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น