วิธีการสแกนไวรัสคอมพิวเตอร์ด้วย Avast antivirus

Avast antivirus เป็นฟรีแวร์ป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ที่กำลังมาแรง แซงทางโค้งคู่แข่งหลายๆ รายด้วยกันในปัจจุบันนี้ อันเนื่องมาจากประสิทธิภาพการใช้งานของโปรแกรมในการป้องกันและตรวจจับไวรัสคอมพิวเตอร์ชนิดต่างๆ ที่แพร่ระบาดอยู่บนโลกอินเตอร์เน็ตขณะนี้ได้เป็นอย่างดี สำหรับวันนี้เรามาดูวิธีการ Scan เพื่อตรวจจับ ค้นหาไวรัสคอมพิวเตอร์ และกำจัดไวรัสร้ายด้วยฟรีแวร์ Avast antivirus กับแบบ step by step พร้อมด้วยภาพประกอบขั้นตอนการทำงานดังนี้ครับ
1 จากหน้าตาของโปรแกรม Avast antivirus ให้เราเลือก options การ scan เป็น

  • Quick scan จะเป็นการเลือกสแกนเฉพาะไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ไวรัสคอมพิวเตอร์ชอบไปหลบซ่อนอยู่ ใช้เวลาไม่นาน
  • Full scan แบบนี้เป็นการสแกนแบบละเอียดทั้งเครื่อง จะใช้เวลานานมาก หลายชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความเร็วและขนาดข้อมูล
  • Removable media scan เป็นการสแกนอุปกรณ์ภายนอกที่เรานำมาเชื่อมต่อ เช่น USB drive เป็นต้น
  • Select Folder to scan เป็นการเลือกสแกนเฉพาะแฟ้มหรือโฟลเดอร์ที่เราเลือกเท่านั้น
หมายเหตุ หากเราไม่ชอบทางเลือกหรือรูปแบบการสแกนหาไวรัสคอมพิวเตอร์ ตามที่ทางโปรแกรมได้จัดเตรียมไว้ ผู้ใช้งานสามารถที่จะเลือกปรับแต่งรูปแบบการสแกนไวรัสได้ด้วยตนเองหรือว่า Create custom scan นั้นเอง นอกจากนั้นโปรแกรม Avast antivirus ยังสามารถที่จะเลือกสแกนไวรัสได้หลายแบบในเวลาเดียวกันได้ด้วย

2 หลังจากเลือกรูปแบบของการสแกนไวรัสคอมพิวเตอร์ตามที่อธิบายด้านบนแล้ว การเริ่มต้นสแกนก็สามารถทำได้โดยการคลิกปุ่ม Start เพื่อเริ่มต้นการทำงานได้เลยครับ ผลการสแกนจะแสดงตามภาพประกอบด้านล่าง ซึ่งสามารถอธิบายผลการสแกนดังนี้ครับ

  • Quick scan แบบของการสแกน เป็นการสแกนแบบรวดเร็ว
  • No Threat found สีเขียว หมายถึง ไม่พบภัยคุกคามหรือไวรัสคอมพิวเตอร์
  • Run time วลาที่ใช้ไปในกรสแกนไวรัส
  • Tested files จำนวนของไฟล์ที่สแกน
  • Tested Folder จำนวนของแฟ้มหรือโฟลเดอร์ที่สแกน
  • Amount of data tested จำนวนของข้อมูลที่ได้รับการสแกน
  • Infected items จำนวนของไฟล์ที่ติดไวรัส
3 ผลการสแกนไวรัส กรณีโปรแกรมตรวจพบไวรัสหรือภัยคุกคามที่จะเป็นอันตรายต่อคอมพิวเตอร์ จะแสดงจำนวนของไฟล์ที่ติดไวรัส พร้อมกับปุ่ม Show Result หรือแสดงผลรายชื่อไฟล์ที่เป็นไวรัสหรือติดไวรัส ให้เราคลิก Show result สีแดงถัดไปด้านขวามือ เพื่อเข้าไปตรวจสอบครับ
4 ทางเลือกในการกำจัดไวรัสของโปรแกรม จะมีด้วยกันทั้งหมด 4 ทางเลือก ซึ่งผมขออธิบายแต่ละทางเลือกพอสังเขปดังนี้ครับ

  • Move to chest เป็นการย้ายไฟล์ที่ติดไวรัสหรือสงสัยว่าเป็นไวรัสไปกักไว้ในแฟ้มหรือโฟลเดอร์เฉพาะ ซึ่งไม่สามารถแพร่ระบาดได้อีก ประมาณว่าเลี้ยงไว้ก่อนในคุก หากความประพฤติดีหรือตรวจสอบแล้วไม่ใช่ไวรัส ก็สามารถย้ายออกมาได้
  • Repair เป็นการกำจัดหรือ ซ่อมไฟล์ที่ติดไวรัส ให้ใช้งานได้ดังเดิม
  • Delete อันนี้ หากมั่นใจว่าเป็นไวรัสคอมพิวเตอร์ sure ก็ให้เรากำจัดออกไปถาวร ด้วยการลบหรือประหารนั้นเอง
  • Do nothing อันนี้ก็ประมาณว่าปล่อยมันไว้ ไม่ต้องทำอะไร


หลังจากเลือกรูปแบบการจัดการไวรัสได้แล้ว ให้เราคลิกปุ่มคำสั่ง Apply สีเขียวด้านล่าง เพื่อเริ่มให้คำสั่งของเรามีผลทำงานทันที ครับ

FlexCell Grid Control (Active X) 5.8.9

FlexCell Grid Control (Active X) 5.8.9 เป็นโปรแกรมสำหรับโปรแกรมเมอร์หรือนักพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้ดาวโหลดมาศึกษาและทดสอบการทำงานการพัฒนาโปรแกรมด้วยภาษา Visual basic โปรแกรมนี้จะช่วยให้นักพัฒนาโปรแกรมสามารถออกแบบรายงานหรือหน้าตาการใช้งานของโปรแกรมที่เราต้องการสร้างหรือพัฒนาขึ้นมา ให้มีรูปแบบหน้าตาที่สวยงาม รวมความสามารถในการออกแบบโปรแกรมที่น่าสนใจ เช่น การพิมพ์ การดูภาพก่อนพิมพ์ แผนผัง การรวมตาราง การสร้างเส้นจำลอง นำเข้า/ส่งออก เอกสาร XML หรือส่งออกไปยังตารางคำนวน Excel เหมาะสำหรับนักเรียนคอมพิวเตอร์ และผู้สนใจทั่วไป
ดาวโหลด FlexCell Grid Control (Active X) 5.8.9
ขนาดไฟล์ 2.32MB
รองรับ Windows 98/2000/XP/Vista/7/NT
FlexCell is a flexible and easy to use grid control. With this product you can create professional user interfaces and report forms in your application. It also provides comprehensive functions such as Print, Print Preview, Chart, Merge Cell, Virtual Grid, Import/Export XML, Export to Excel Workbook (no need of Excel runtime support). It provides six cell types and nine programming objects

What's new in this version:

Version 5.8.9 has removed a bug related to Grid.DisplayFocusRect property.

Review 0.9

Review 0.9 ฟรีแวร์ตัวช่วยในการจดจำและทำข้อสอบสำหรับนักเรียนนักศึกษาหรือผู้สนใจทั่วไป ได้ดาวโหลดมาติดตั้งและใช้งาน โดยทางผู้พัฒนาได้เปิดให้ดาวโหลดมาติดตั้งและใช้งานได้ฟรีครับ ความสามารถและคุณลักษณะของโปรแกรมโดยคร่าวๆ ก็คือการสร้างชุดคำถามและคำตอบในลักษณะของกระดาษแบบ พลิกคำถามคำตอบหรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Flash card ซึ่งถือเป็นเครื่องมือการช่วยความจำได้เป็นอย่างดี จึงเหมาะสำหรับนักเรียนนักศึกษาที่กำลังเตรียมตัวสอบ เพื่ออนาคตที่สดใจและโอกาสที่ดีกว่าในการทำงานครับ สนใจดาวโหลดมาใช้งานได้ฟรีครับ
ดาวโหลด Review 0.9
ขนาดไฟล์ 417.06K
รองรับ Windows 2000/XP/Vista
Review helps you study efficiently and retain information for a long time. The program keeps track of how well you know each question, so it can test your weaker spots more frequently. You can add your own questions or flashcards in the form of text, mathematical symbols, images, or sounds. You can also set prerequisites to any question.

What's new in this version:

The following Registration Code allows you to use the program for free: PHO88OAWR0UKI7BOAMOE

The Extractor 1.4.2.2

The Extractor 1.4.2.2 อีกหนึ่งโปรแกรมแตกไฟล์จากค่าย N00bsoft: มาพร้อมความสามารถในการแตกไฟล์ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว หรือจะใช้วิธีการลากวางหรือ drag and drop ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยรองรับการแตกไฟล์ RAR และ ZIP ไฟล์ และที่พิเศษคือการลบหรือ Delete ไฟล์และโฟลเดอร์หลังจากแตกไฟล์หรือคลายไฟล์เสร็จแล้ว
ดาวโหลด The Extractor 1.4.2.2
ขนาดไฟล์ 1.64MB
รองรับ Windows XP/Vista/7


The Extractor lets you extract any number of files with just one click. Simply drag and drop zip files, any one file of the same rar set or any folder, with any number of subfolders, to add to the list of items to be processed. It can also delete processed files and folders after successful extraction. Supports ZIP and RAR archive formats.

What's new in this version:

Fixed a couple of cosmetic bugs introduced in 1.4.2.1

บีดอัดข้อมูลด้วย ZipGenius

ZipGenius Standard Edition ฟรีแวร์สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการโปรแกรมสำหรับการบีดอัดไฟล์ข้อมูลชนิดต่างๆ ให้มีขนาดเล็กลงเพื่อความสะดวกและความรวดเร็วในการรับส่งข้อมูลผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต โดยฟรีแวร์ตัวนี้ทางผู้พัฒนาได้เปิดให้ผู้สนใจดาวโหลดมาติดตั้งและใช้งานกันได้แบบฟรีๆ โดยไม่มีเงื่อนไขครับ สนใจสามารถดาวโหลดได้ฟรีครับ
ดาวโหลด ZipGenius Standard Edition
ขนาดไฟล์ 8.62MB
รองรับ Windows 98/Me/2000/XP/2003/Vista/Server 2008/7/NT
ความนิยม ระดับ 5 ดาว
สำรวจหน้าตาใช้งานหรืออินเตอร์เฟชของโปรแกรมหลังติดตั้งแล้ว เมื่อเปิดขึ้นมาจะพบหน้าตาและเมนูการใช้งานตามภาพประกอบด้านบน เมนูคำสั่งที่ใช้งานประจำ และจะขอแนะนำก็คือ ปุ่มเมนู Add ใช้สำหรับการเพิ่มไฟล์ที่ต้องการบีบอัดเข้ามาในโปรแกรม เพื่อตั้งค่าและบีบอัดไฟล์ให้มีขนาดเล็กตามต้องการของเรา ส่วนอีกปุ่มคำสั่งที่ต้องใช้งานเป็นประจำก็คือปุ่ม Extract สำหรับการแตกไฟล์หรือการยกเลิกการบีบอัดไฟล์ที่เราดาวโหลดมาจากอินเตอร์เน็ต หรือเพื่อนๆ ส่งมาทางอีเมล์ เป็นต้น โดยการคลายไฟล์ก็ไม่ยากครับ จะมี Wizard หรือไกด์นำไปตามขั้นตอนจนแล้วเสร็จ 

ZipGenius has all the functions of a typical compression utility plus a ton of extra features. It not only zips and unzips but also offers support for 21 compression and encoding and decoding formats, ZIP encryption and decryption, Pocket PC support via ActiveSync, drag-and-drop support, integration in the Windows shell, the ability to send archives via e-mail, and Web publishing of archives and files via FTP and TWAIN devices. The Standard Edition doesn't include FTPGenius (the FTP client). You can download it as an add-on, or you can get it in the Suite Edition package.

การเรียกใช้งานแม่แบบอัตโนมัติ PowerPoint 2003

การสร้างงานนำเสนอด้วย PowerPoint 2003 จัดเป็นวิธีการที่สะดวก รวดเร็ว และสวยงาม ได้อย่างง่าย ๆด้วยการเรียกใช้งานแม่แบบอัตโนมัติ หรือ Template ขึ้นมาใช้งานกับสไลด์หรืองานนำเสนอของเรา ให้ดูดี และมีความสวยงาม คล้ายกับมือโปรจัดทำ ได้โดยการทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ครับ
1 ให้เราเปิดงานนำเสนอของเราที่ต้องการ เรียกใช้งานแม่แบบอัตโนมัติขึ้นมา
2 ให้เราคลิกที่ปุ่มลูกศรเล็ก ๆ ของบานหน้าต่างงาน จากนั้นให้เราเลื่อนไปที่ การออกแบบภาพนิ่ง (ดูภาพประกอบ) และคลิก 1 ครั้ง

3 จะแสดงภาพตัวอย่างของแม่แบบ ที่ทางโปรแกรมได้จัดเตรียมไว้ให้เราเลือกใช้งาน ซึ่งข้อดีของการเลือกใช้งานแม่แบบ ก็เหมาะสำหรับการสร้างงานนำเสนอแบบสวยงามอย่างรวดเร็ว ทั้งภาพพื้นหลัง ขนาดและสีสันของข้อความทั้งชื่อเรื่องหลัก และชื่อเรื่องรอง การเรียกใช้านก็สามารถนำเม้าส์ไปคลิกที่รูปภาพของแม่แบบ ที่เราต้องการจะแสดง options หรือทางเลือกของการใช้งานแม่แบบขึ้นมาให้เราเลือกใช้งาน เป็น นำไปใช้กับทุกภาพนิ่งของเรา หรือ นำไปใช้กับภาพนิ่งหรือสไลด์ที่เราเลือกเท่านั้น

4 สไลด์งานนำเสนอของเรา จะถูกเปลี่ยนให้มีรูปแบบและสีสันตามแม่แบบ ที่เราเลือกใช้งาน เพียงเท่านี้เราก็จะได้งานนำเสนอที่ดูดี สวยงามตามภาพประกอบด้านล่าง อย่าลืมคลิก save เพื่อบันทึกผลงานของเราไว้นำเสนอต่อไป

Tips การสร้างงานนำเสนอด้วย PowerPoint ใน 1 งาน ไม่จำกัดว่าจะเลือกใช้งานแม่แบบที่แตกต่างกี่แบบ 2 -3 แบบ ต่องานก็สามารถนำมาใช้งานได้ครับ ขึ้นกับความต้องการของเราเป็นหลัก แต่มีข้อพิจารณาการจัดทำงานนำเสนอที่เป็นระเบียบและง่ายต่อการนำเสนอ ใน 1 เรื่องหรือ 1 ไฟล์ควรจะใช้งานแม่แบบเดียวกันทั้งหมด เพื่อความง่ายในการบริหารและจัดการครับ
Tips 2 จำเป็นต้องเรียกใช้งานแม่แบบกับงานนำเสนอของเราทุกครั้งหรือไม่ อันนี้ไม่จำเป็นครับ หากเรามีเวลา และมีความรู้ความสามารถ เราก็สามารถที่จะออกแบบ ตกแต่งใส่สี ตีกรอบ งานนำเสนอของเราได้ตามต้องการครับ

วิธีเลือกใช้งานเค้าโครงภาพนิ่ง PowerPoint 2003

เริ่มต้นสร้างงานนำเสนอด้วย PowerPoint บางครั้งที่ผมเคยเห็นมือใหม่หรือผู้เริ่มต้นใช้งาน PowerPoint ในการสร้างงานนำเสนอบ่อยๆ ก็คือ การสร้างกล่องข้อความเองทั้งในส่วนของ หัวข้อหลัก และหัวข้อย่อย ซึ่งทำให้เกิดความยุ่งยากและล่าช้าต่อการทำงาน สำหรับทิปการสร้างงานนำเสนอด้วย PowerPoint ในวันนี้ผมจะขอนำเสนอการใช้งาน เค้าโครงอัตโมัติ ที่ทางโปรแกรม PowerPoint ได้จัดเตรียมไว้ให้เราสามารถเลือกใช้งานได้ตามความต้องการของเราสะดวกและรวดเร็ว โดยสามารถทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ครับ
1 ให้เราเปิดโปรแกรม PowerPoint ขึ้นมา
2 คลิกที่ปุ่มลูกศรเล็ก ๆ ของบานหน้าต่างงาน จากนั้นให้เราเลื่อนไปที่ เค้าโครงภาพนิ่ง และคลิก 1 ครั้ง

3 จะแสดงรายการของ เค้าโครงภาพนิ่ง ในลักษณะของภาพย่อขนาดเล็กๆ หรือเรียกว่า Thumbnail ขึ้นมาให้เราเลือกใช้งานประกอบไปด้วย

  • ชื่อเรื่องและข้อความ
  • ชื่อเรื่องและสองหัวข้อย่อยแบ่งเป็นสองส่วน
  • ชื่อเรื่องและภาพประกอบ
  • ชื่อเรื่องและแทรกแผนผังองค์กร
  • ชื่อเรื่องและกราฟ
  • ภาพนิ่งเปล่า

4 สำหรับทิปในวันนี้ ผมจะขอให้เลือกใช้งานเค้าโครงแบบ ชื่อเรื่องและข้อความ ให้เรานำเม้าส์ไปคลิกเลือก 1 ครั้ง ก็จะได้เค้าโครงของภาพนำเสนอหรือสไลด์ที่พร้อมให้เราใช้งานได้แล้วครับ

5 ขั้นตอนต่อไปให้เราใช้เม้าส์คลิกลงไปในส่วนของหัวข้อหลักและพิมพ์ข้อความตามต้องการเข้าไป จากนั้นก็ตามด้วยหัวข้อย่อยตามตัวอย่างจนแล้วเสร็จ

6 คลิกปุ่ม save เพื่อบันทึกผลงานของเราไปใช้ในการนำเสนอ หรือเพื่อการปรับปรุงแก้ไขให้สวยงามต่อไป

การตั้งค่าการ boot จากแผ่น CD/DVD

โดปกติแล้ว หากเราต้องการติดตั้งวินโดว์ใหม่ หรือ แก้ไขปัญหาไวรัสคอมพิวเตอร์ หรือการกู้คืนรหัสผ่านโดยใช้งานแผ่น CD/DVD boot ที่เราสร้างขึ้นมา ผู้ใช้งานจำเป็นจะต้องรู้วิธีการเข้าไปกำหนดหรือตั้งค่าลำดับขั้นตอนการอ่านหรือ boot เครื่อง ผ่านระบบจัดการที่เรียกว่า CMOS หรือ Bios กันก่อน จึงจะสามารถทำงานตามต้องการของเราต่อไปได้ โดยการเข้าสู่การตั้งค่า BIOS ของแต่ละเครื่องก็จะแตกต่างกันไป โดยระหว่างการ boot เครื่อง ถ้าเราสังเกตุให้ทันจะแสดงข้อความแจ้งเราว่าให้กด หรือ Press แป้นหรือปุ่มใดๆ บนคีย์บอร์ดเพื่อเข้าสู่การตั้งค่า BIOS นะครับ ปกติก็จะมีปุ่ม ลบ Del และปุ่ม F2 เพื่อเข้าสู่การตั้งค่า BIOS กันครับ
1 สำรวจหน้าตาและเมนูการใช้งานของ Bios ซึ่งจะมีเมนหลักๆ ด้านบน ให้ผู้ใช้งานใช้ปุ่มลูกศร ซ้าย ขวา ในการเลื่อนไป กลับ ระหว่างเมนู และด้านล่างของหน้าตาจะมีคำอธิบายการใช้งานเมนู เช่น การเปลี่ยนแปลงค่าการใช้งาน ให้ใช้ปุ่ม -/+ หรือ การกดปุ่ม F9 เป็นการเรียกคืนค่าที่ตั้งมาจากโรงงานผู้ผลิต เป็นต้น

2 เนื่องจากเราต้องการกำหนดค่าการ boot จากแผ่น CD/DVD จึงให้เราใช้แป้นหัวลูกศร ซ้าย ขวา เลื่อนมายังตำแหน่งเมนู Boot เราจะเห็นค่าปกติที่กำหนดไว้ตามภาพ คือบนสุดเป็นอุปกรณ์พวก Remove able Device ที่สามารถถอดเข้าออกได้ ตามมาด้วยอันที่สองคือ Hard drive หรือ Drive C ของเรานั้นเอง และอันดับที่สามคือ CD-ROM Drive ที่เราต้องการให้อ่านหรือเรียงลำดับใหม่เป็นลำดับที่หนึ่ง นั้นเอง

3 การเปลี่ยนค่าลำดับของการ boot ให้เราใช้แป้น -/+ ในการเลื่อนตำแหน่งของ CD-ROM Drive ให้ขึ้นไปอยู่ลำดับแรกสุด ตามภาพประกอบนะครับ

4 การบันทึกการเปลี่ยนแปลงและการออกจากการตั้งค่า ให้เราเลื่อนไปที่เมนู Exit และเลื่อนมาที่คำสั่ง Exit Saving Change เป็นการออกจาก BIOS และบันทึกหรือ Save ค่าที่เราเปลี่ยนแปลง

5 ยืนยันการเปลี่นแปลงของเราอีกครั้งด้วย การตอบ YES (คลิกแป้น Enter)

ุ6 ต่อไปเมื่อเรานำแผ่น CD/DVD ที่สามารถ boot จากแผ่นได้ เพื่อการลงวินโดว์ใหม่ การแก้ไขปัญหาไวรัส หรือการกู้คืนรหัสผ่าน ก็สามารถทำได้โดยการใส่แผ่น CD/DVD เข้าไปในเครื่องอ่านให้เรียบร้อย หลังจากนั้น BIOS ก็จะอ่านข้อมูลจากแผ่น CD/DVD ของเราก่อนเป็นอันดับแรกสุดตามที่เรากำหนดไว้ โดยจะแสดงข้อความว่า Press any key to boot from CD... ให้เรากดแป้นใดๆ ของคีย์บอร์ดเพื่อเข้าสู่การ boot จากแผ่น CD หรือ DVD ของเราต่อไปครับ

ขั้นตอนการเขียนแผ่น ISO

การเขียนแผ่น ISO image file ลงแผ่น CD หรือ DVD จะแตกต่างจากการเขียนแผ่นข้อมูลโดยทั่วไป ผู้ใช้งานจำเป็นจะต้อง เลือก "burn image" หรือ "write image" ในโปรแกรมเขียนแผ่น CD หรือ DVD ของเรา

สำหรับบทความนี้จะเป็นการแนะนำขั้นตอนของการเขียนไฟล์ ISO image ลงแผ่น CD/DVD แบบเป็นขั้นตอน โดยใช้ฟรีแวร์ที่สามารถดาวโหลดมาใช้งานได้ฟรีๆ อย่าง Free Easy CD DVD Burner แม้ว่าจะเป็นของฟรีแต่ระหว่างการติดตั้งโปรแกรมจะถามความสมัครใจของเรา ว่าจะติดตั้งโปรแกรมอื่นๆ เพิ่มเติมไหม ให้เราปฏิเสธได้ ถ้าเราไม่ชอบ โดยโปรแกรม Free Easy CD DVD Burner รองรับ Windows 7, Vista, XP, และ 2000.
ก่อนเริ่มต้นให้เราดาวโหลด Free Easy CD DVD Burner มาติดตั้งให้เรียบร้อย จากนั้นทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
1 ใส่แผ่น CD หรือ DVD เปล่า เข้าไปในเครื่อง

2 เปิดโปรแกรม Free Easy CD DVD Burner ขึ้นมา

3 คลิกที่ Copy CD/DVDบนแถบเมนู tool bar ด้านบนของ window

4 ภายใต้เมนู Action menu ด้านซ้ายมือ, คลิก Burn an image file

5 เมื่อเลือก image file ที่เราต้องการบันทึกเปิดขึ้น ให้เราเข้าไปเลือกไฟล์ที่เราต้องการเขียนหรือ burn เข้ามาในโปรแกรม ด้วยการคลิกปุ่ม Open.

6 จะแสดง dialog box ถามว่า "Do you want to burn [your chosen ISO file]?".

ให้เราคลิก OK เพื่อยืนยัน

จากนั้นกระบวนการทำงานจะเริ่มขึ้น เวลาที่ใช้ในการทำงานขึ้นอยู่กับขนาดของไฟล์ ความเร็วของเครื่องอ่าน CD/DVD และความเร็วของคอมพิวเตอร์ในการประมวลผล ปกติจะใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็จะเรียบร้อยครับ

เมื่อการ burn สำเร็จ แผ่น CD หรือ DVD จะถูกดีดออกมาเองโดยอัตโนมัติ จากนั้นเราก็สามารถนำแผ่น CD หรือ DVD ไปใช้งานตามวัตถุประสงค์ของเราต่อไป

ปิดเครื่องอัตโนมัติ

การปล่อยให้คอมพิวเตอร์ของเราทำงานอยู่ตลอดเวลา ถือว่าเป็นสิ่งไม่ดีต่อเครื่องและบิลค่าไฟเช่นกัน บางคั้งเราอาจจะไม่ต้องการนั่งอยู่กับที่อคอยการดาวโหลดข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตจนแล้วเสร็จ แต่เราก็ไม่ต้องการที่จะปิดเครื่องก่อนดาวโหลดเสร็จสิ้น ดังนั้นระบบตั้งเวลาปิดเครื่องอัตโนมัติหรือ Auto Shutdown - InBasic ซึ่งเป็นส่วนขยายของ โปรแกรมท่องเน็ตอย่าง Firefox ซึ่งจะทำให้เราสามารถตั้งค่าการิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อการดาวโหลดข้อมูลเสร็จสิ้น

การติดตั้งส่วนขยายหรือว่า add-on ของ Firefox สามารถติดตั้งได้ง่ายๆ และหลังจากเรา restart โปรแกรม Firefox แล้ว จะปรากฏปุ่มไอคอนเ็ล็กๆ ในแถบแสดงสถานะหรือว่า status bar. ซึ่งหากระบบ Auto Shutdown ถูกสั่งใชงานหรือ enabled, เราจะพบว่า icon เปลี่ยนเป็นสีแดง และหากไม่สั่งใช้งานจะเป็นสีเทา การสั่งใช้งานหรือปิดการใช้งานสามารถทำได้โดยง่ายๆ โดยการคลิกที่ปุ่ม เมื่อระบบปิดเครื่องอัตโนมัติถูกกำหนดให้เป็น enabled, ระบบก็จะทำตามกำหนดที่เราต้องการทันที หลังการดาวโหลดเสร็จสิ้นแล้ว จะมีหน้าต่าง warning dialog แสดงขึ้นมา หลังจากนั้นระบบก็จะปิดเครื่องให้เราโดยอัตโนมัติต่อไป ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าเวลาที่ต้องการให้แจ้งเตือนการปิดเครื่องอัตโมัติตามต้องการ นอกจากนั้นโปรแกรมยังมีความสามารถอื่นๆ เช่นการตั้งค่าให้เครื่องเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงานหรือ hibernate หรือ restart คอมพิวเตอร์ใหม่แทนการปิดเครื่อง ก็สามารถทำได้เช่นกัน
โดยสรุปแล้ว Auto Shutdown เป็นฟรีแวร์ที่ง่ายต่อการใช้งาน และเป็นส่วนขยายความสามารถของ Firefox Built-in Download Manager
ดาวโหลด Auto Shutdown - InBasic 3.6.2D
ขนาดไฟล์ 140.65K
รองรับ Windows XP/Vista
หลังติดตั้งโปรแกรมแล้ว ผู้ใช้งานจะได้ icon เล็กๆ บริเวณแถบแสดงสถานะของโปรแกรม เมื่อนำเมาส์ไปคลิกเพื่อกำหนดค่าการปิดเครื่องอัตโนมัติตามต้องการของเราต่อไปครับ 

This extension help you to add this feature to Firefox Built-in Download Manager. This extension add icon to status bar and Download Manager Window so by click on status icon or check in download manager you can be sure that your PC will be shutdown after all downloads finished or failed.

driver คืออะไร

คำนิยาม: driver โปรแกรมคอมพิวเตอร์ตัวหนึ่งที่ทำหน้าที่ในการประสานหรือติดต่อระหว่างอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของเรา เข้ากับระบบปฏิบัติการ OS Windows หรือ Linux ยกตัวอย่างเช่น หากเราพึ่งซื้อเครื่องพรินเตอร์มาใหม่จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งจะมาพร้อมสาย USB ในการเชื่อมต่อและแผ่น CD DRIVER ของเครื่องพิมพ์รุ่นนั้น ซึ่งเราจำเป็นต้องทำตามคำแนะนำในการติดตั้ง ด้วยการใส่แผ่น CD DRIVER ที่มาพร้อมกับเครื่องพรินเตอร์นั้น เพื่อทำการติดตั้ง Driver ของเครื่องพิมพ์เครื่องนั้นลงในวินโดว์ของเรา ซึ่งจะเป็นตัวเชื่อมต่อหรือว่าทำให้คอมพิวเตอร์ของเรารู้จักอุปกรณ์พรินเตอร์ที่นำมาเชื่อมต่อนั้นเอง จึงจะทำให้เราสามารถใช้งานเครื่องพิมพ์ได้อย่างถูกต้องต่อไป เช่นเดียวกันกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ เช่น Sound card drivers หรือไดร์ฟเวอร์ของการ์ดเสียง ก็จำเป็นจะต้องมีตัว driver software ติดตั้งให้วินโดว์รู้จักอุปกรณ์เช่นกันจึงจะสามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง รวมทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ เช่น การ์ดจอ video cards, keyboards, monitors, และอื่นๆ

ระบบจัดการอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และ Driver ของวินโดว์เป็นระบบแบบรวมการ ผู้ใช้งานวินโดว์สามารถเข้าถึงเพื่อตรวจสอบ จัดการ และอัพเดท ได้ที่ Device Manager
วิธีการเข้าถึง Device Manger จากคำสั่งใน Control Panel
คลิกที่ Start จากนั้นไปที่ Control Panel.

คลิกที่ลิงค์ Performance and Maintenance

บันทึก : ถ้าเรากำลังดูมุมมองแบบ Classic View คุณจะไม่เห็นลิงค์คำสั่งนี้ ให้คลิกที่ปุ่ม System icon และข้ามไปขั้นตอนที่ 4 ได้เลย

ในแถบของ Performance and Maintenance window, คลิก System icon
ในช่องของ System Properties window, คลิกที่ Hardware tab.

จากนั้นคลิกที่ Device Manager button.

ตอนนี้จะแสดงรายการ Device Manager เพื่อให้เราสามารถ update device drivers, หรือดูระบบ system resources

จับภาพหน้าจอแบบมืออาชีพด้วย PicPick 2.3.7

โปรแกรมฟรีแวร์ สำหรับการจับภาพหน้าจอการทำงาน เป็นภาพนิ่ง และตกแต่งด้วยข้อความ เพิ่มจุดเน้น และลูกเล่นต่างๆ ให้สวยงาม โดดเด่น เพื่อนำไปแชร์ หรือประกอบการใช้งานตามต้องการ

PicPick 2.3.7 ฟรีแวร์สำหรับการจับภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานออกแบบเว็บเพจ การแต่งภาพ การนำเสนอผลงาน เป็นต้น โปรแกรมได้รับการออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ง่ายๆ ด้วยหน้าตาที่สะดวกและง่ายต่อการใช้งาน แต่มีเครื่องมือสำหรับการการจับภาพหน้าจอที่มีประสิทธิภาพ แต่ที่แตกต่างจากโปรแกรมจับภาพอื่นๆ ก็คือความสามารถในการ edit หรือว่าแก้ไขตกแต่งภาพที่เราจับได้ ให้มีสีสันที่สวยงามและขนาดตามที่เราต้องการได้อย่างสะดวกนั้นเอง โดยหลังจากติดตั้งแล้ว โปรแกรมจะทำงานอยู่เบื้องหลังของเรา จนเมื่อผู้ใช้งานต้องการใช้งานแล้วจึงจะเริ่มทำงานให้เราทันที
ดาวโหลด PicPick 2.3.7
ขนาดไฟล์ 3.37MB
รองรับ Windows 2000/XP/2003/Vista/Server 2008/7
การติดตั้งละใช้งาน
1 หลังจากดาวโหลดมาแล้วให้คลิก setup เพื่อเข้าสู่กระบวนการติดตั้ง
2 คลิก Next เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป
3 คลิก install เพื่อติดตั้งโปรแกรม
4 คลิก Finish เพื่อเสร็จสิ้นการติดตั้ง และเปิดโปรแกรมขึ้นมา

การจับภาพหน้าจอสามารถจับภาพหน้าจอได้หลากหลายรูปแบบและวิธีการดังนี้ครับ

  • Full screen จับแบบเต็มหน้า หรือพื้นที่หน้าจอทั้งหมด
  • Active window หน้าต่างวินโดว์หรือโปรแกรมที่กำลังเปิดอยู่
  • Window Control 
  • Region เลือกพื้นที่ที่ต้องการจับภาพตามต้องการ
  • Fixed Region กำหนดค่าความกว้างและความยาวของขนาดภาพที่ต้องการจับภาพหน้าจอแบบ Fix
  • FreeHand ลากพื้นที่ที่ต้องการจับภาพตามอิสระของเรา
บันทึก หลังจากจับภาพหน้าจอแล้ว ภาพที่จับได้จะถูกเปิดเข้าสู่โปรแกรมแต่งภาพให้เราโดยอัตโนมัติ เราสามารถ edit หรือปรับแต่งตามต้องการของเรา โดยใช้เครื่องมือที่ปรากฏอยู่ด้านบนของโปรแกรม เช่น การ crop ตัดขนาดภาพ หมุนภาพ ใส่ข้อความ หรือลูกศรประกอบคำอธิบาย จากนั้นก็ save ผลงานของเราเพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ของเราต่อไป

PicPick is user friendly and full of features for creating your image, suitable for software developers, graphic designers and home users. It is an all-in-one program that provides full-featured screen capture tool, intuitive image editor, color picker, color palette, pixel ruler, protractor, crosshair and even whiteboard. It has not only everything what you need, but it loads fast, sits quietly in the system tray until needed.

Format USB drive ให้เป็น NTFS

หากคุณเคยพยายามที่จะ format USB drive ของเราในรูปแบบของ NTFS Format? แต่ไม่มีตัวเลือกของ NTFS ในค่าปกติของวินโดว์ XP. ซึ่งอนุญาติให้เราสามารถ format USB ในรูปแบบของ FAT หรือ FAT32 เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามการ format ในรูปแบบของ NTFS ก็สามารถทำได้ง่ายๆ

NTFS จะทำให้รูปแบบการจัดเก็บข้อมูลที่ดีกว่า ปลอดภัยมากกว่าการจัดเก็บรูปแบเดิมคือ FAT หรือ FAT32 รวมทั้งการกำหนดค่ารักษาความปลอดภัย ที่ดีกว่า ทำให้การจัดเก็บไฟล์ข้อมูลแบบ NTFS file system ทำให้ภาพรวมประสิทธิภาพและการทำงานของวินโดว์ดีขึ้น
ขั้นตอนการทำงาน ก่อนอื่นให้เราเสียบ USB ไดร์ฟที่ต้องการฟอร์แมตเข้าไปในคอมพิวเตอร์ให้เรียบร้อยก่อน จากนั้น
1 คลิกขวาบนไอคอน my computer จากนั้นคลิก Manage
2 คลิกที่ Device Management
3 ด้านขวามือ คลิก Disk drive
4 คลิกขวาบนรายชื่อของ USB ไดร์ฟของเราที่แสดงขึ้นมาให้ จากนั้นคลิก Properties
5 ในแท็บ Policy คลิกเลือก Optimize for performance จากนั้นคลิก OK

6 บนหน้าจอ Desktop คลิกเปิด My computer ขึ้นมา
7 คลิกขวาบนอุปกรณ์ USB ของเราที่ต้องการฟอร์แมต
8 เลือกคำสั่ง Format เราจะได้ options เพิ่มขึ้นมาเป็น NTFS ให้เรา
9 คลิกปุ่ม Start เพื่อเริ่มการ Format ได้เลยครับ

ตัดต่อวีดีโอง่ายๆ ด้วย Video Edit Master

Video Edit Master จากชื่อก็คงบอกอยู่แล้วนะครับว่าเป็นฟรีแวร์สำหรับการใช้งานในการตัดต่อและรวมวีดีโอเข้าด้วยกัน อีกครั้งความพิเศษของโปรแกรมก็คือ มีขนาดเล็กประมาณ 5 MB สามารถใช้งานตัดต่อไฟล์วีดีโอที่มีรูปแบบการเข้ารหัสแบบเดียวกัน ความละเอียดเท่ากัน และเฟรมเรตเท่ากัน ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนการเข้ารหัสไฟล์หรือ re-encoding นอกจากนั้นความสามารถที่โดดเด่นและอาจจะเป็นที่ต้องการของผู้ใช้งานก็คือความสามารถในการ Remove หรือถอดออกของการโฆษณาที่ปรากฏบนไฟล์วีดีโอออกนั้นเอง ตัดและต่อไฟล์ได้อย่างง่ายดายครับ สนใจดาวโหลดมาทดสอบกันได้ฟรีครับ
ดาวโหลด Video Edit Master
ขนาดไฟล์ 5.21MB
รองรับ Windows 2000/XP/Vista
การติดตั้งและใช้งาน
การดาวโหลดและการติดตั้งผมขอข้ามไม่พูดถึง เพราะเชื่อว่าทุกท่านทำเป็นอยู่แล้ว เรามาเริ่มการตัดต่อและรวมไฟล์เข้าด้วยกันดีกว่าครับ
ซึ่งการแยกไฟล์หรือการตัดไฟล์ออกเป็นส่วนๆ ภาษาอังกฤษก็คือการ split สำหรับการนำไฟล์มาร่วมกันหรือต่อกันภาษาอังกฤาก้คือ join นั้นเอง เราลองมาดูวีธีการ join และ cut video files ด้วยการใช้ฟรีแวร์ Video Edit Master กันเป็นตัวอย่างครับ
1 คลิกปุ่ม Add นำไฟล์วีดีโอที่ต้องการตัดต่อเข้ามาก่อน แสดงในรายการ Playlist ถ้าเราต้องการต่อไฟล์หรือ join ไฟล์เข้าด้วยกัน กรณีเราดาวโหลดไฟล์จากอินเตอร์เน็ตซึ่งมีการตัดแบ่งออกเป็นไฟล์เล็กๆ เพื่อความง่ายและรวดเร็วในการดาวโหลด เราสามารถเลือกเปิดไฟล์ทั้งหมดเข้ามาในโปรแกรม ซึ่งต้องมีรูปแบบเดียวกัน ทั้งอัตราเร็ว ความละเอียด จากนั้นให้เราคลิกเลือกไฟล์ที่ต้องการต่อเข้าด้วยกัน จากนั้นคลิกที่ Add Files To Segments

2 ถ้าเราต้องการแก้ไขปรับแต่ง เช่นการลบโฆษณาที่ไม่ต้องการออกไป หรือตัดบางส่วนของวีดีโอออกไป ให้เราคลิกที่ไฟล์ที่ต้องการตัดต่อ
3 ให้เราขยับตัวเลื่อนหรือว่า slider ไปยังจุดเริ่มต้นที่เราต้องการ บน video segment,
Shortcut Keys.
ผู้ใช้งานสามารถคลิกที่รูปตา หรือกดแป้น C ในหน้าต่างของ Video Editor window เพื่อจับภาพหน้าจอหรือ capture เป็นภาพนิ่ง jpg หรือ bmp image.
4 ใช้ปุ่มลูกศรสีน้ำเงินเพื่อปรับตำแหน่งที่ดีขึ้น โดยปุ่มลูกศร ซ้าย ขวา สำหรับการเลื่อนไปกลับ ส่วนลูกศรคู่ สำหรับเลื่อนไป 1 วิ หรือกดปุ่ม shift+] และ shift+[ keys), เมื่อเราได้ตำแหน่งเริ่มต้นที่ต้องการแล้ว ให้เราคลิกที่ปุ่ม S
5 ทำซ้ำกับขั้นตอนที่กล่าวมาแล้ว เพื่อกำหนดจุดสุดท้ายหรือ end point สำหรับ segment ปัจจุบัน และกดปุ่ม E

6 กดปุ่ม Add segment และทำซ้ำขั้นตอนเดิม จนกระทั่งเราได้ segments ที่เราต้องการแล้ว
ถ้าเราคิดว่ามีบาง segments ที่ต้องการปรับแต่ง ให้เรา double clickที่ segment หรือเลือกมันจากนั้น กด Enter key, จะเป็นการเปิด segment ในหน้าต่างของ Video Editor windowให้เราปรับแต่งจุดเริ่มต้นหรือจุดสุดท้ายที่ต้องการ อีกครั้ง จากนั้นกด Add Segment อีกครั้ง สังเกตว่า โปรแกรม Video Edit Master จะเก็บไฟล์ segment เดิมไว้ให้เรา และเพิ่ม ค่าใหม่เข้ามา หากเราไม่ต้องการตัวเดิมก็สามารถคลิกเลือกไฟล์ จากนั้นก็กดแป้น Delete key ออกไปได้เลยครับ

7 ถ้าเราต้องการจัดเรียงไฟล์หรือ re-sort the segments, สามารถใช้การ click และ drag แต่ละ segment และปรับเรียงในรายการของ Segments list.
8 เราสามารถบันทึกโครงการหรือ project เพื่อการปรับแต่งและแก้ไขภายหลังได้ โดยการคลิกที่ File > Save Project (Ctrl+S).
9 เมื่อเราพร้อมที่จะบันทึกผลงานออกมาเป็นหนังหรือ final movie,ให้เรากด File > Produce Movie (Ctrl+P). สังเกตให้ดีว่า MEPG files เลือกอย่างเหมาะสมเป็น MPEG type, MPEG-1 or MPEG-2

Video Edit Master is a free video editor including these features: Cutting and joining video files that have the same encoding, resolution and frame rate easily and fast without re-encoding, removing commercials from AVI and MPEG files very fast, capturing frames from video files, has a user friendly GUI and a preview to help you cut and join files precisely. Final video will have the same quality of the original files. Version 1.8 adds MPEG-2 support, enhanced Playlist, and enhanced and accurate Capture Frame function.

What's new in this version:

Version 1.8 adds MPEG-2 support, enhanced Playlist, and enhanced and accurate Capture Frame function.

McAfee Security Scan Plus

ตรวจจับไวรัสบนคอมพิวเตอร์ของคุณฟรีด้วยเครื่องมือฟรี ที่ใช้ระบบตรวจจับของ โปรแกรมป้องกันไวรัสชื่อดังอย่าง McAfee นั้นเอง โดยโปรแกรมจะทำการสแกนเพื่อตรวจสอบและค้นหาไวรัสที่แอบอยู่บนคอมพิวเตอร์ของเรา รวมทั้งไวรัสชนิดใหม่ๆ ที่กำลังแพร่ระบาด จากนั้นก็จะแสดงผลการตรวจสอบและค้นหา เป็นรายชื่อของไวรัสที่ตรวจพบ จากนั้นโปรแกรมก็จะแสดงลิงค์เพื่อเชื่อมโยงไปยังวิธีการแก้ไขปัญาไวรัสให้เรา อย่างถูกต้องและรวดเร็วต่อไปครับ
เครื่องมือนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไวรัสคอมิวเตอร์ ซึ่งโปรแกรมป้องกันและตรวจจับไวรัสคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งอยู่ใช้งานไม่ได้ผล หรือตรวจจับไม่เจอไวรัสคอมพิวเตอร์ที่หลบอยู่นั้นเอง สนใจสามารถคลิกที่ลิงค์เพื่อเข้าไปดาวโหลดสแกนไวรัสคอมพิวเตอร์ได้ฟรี โดยหลังจากดาวโหลดแล้วแล้ว ให้เราคลิกไฟล์ที่ดาวโหลดมาแล้ว เพื่อติดตั้ง หรือ Install คอยสักประมาณ 30 วินาทีก็จะเรียบร้อย จากนั้นห้เราคคลิกที่ปุ่ม Scan Now เพื่อเริ่มการทำงานได้เลยครับ โดยเราจะต้องคลิกยอมรับเงื่อนไขการใช้งานของโปรแกรมอีกครั้งและคลิกปุ่ม Continue เพื่อเริ่มการ scan/ คลิก Update เพื่อให้โปรแกรมโหลดข้อมูลไวรัสใหม่ๆ
ดาวโหลด McAfee Free virus Scan Tool
แสดงผลการค้นหา 


Detect viruses on your computer with this free tool, based on McAfee's VirusScan engine. FreeScan searches for viruses, including the latest known "in the wild" viruses, and displays a detailed list of any infected files. Should viruses be found, FreeScan links to information about the virus and tells you what you can do to clean your system.

FreeScan uses ActiveX components to initiate scanning. The first time you access FreeScan, the required ActiveX components are downloaded to your computer. The user interface is an HTML page.

วิธีการใช้งาน Google Chrome

สำหรับส่วนนี้เป็นเนื้อหาสำหรับมือใหม่หรือผู้เริ่มต้นใช้งานอินเตอร์เน็ต และต้องการใช้งาน Google Chrome ในการท่องอินเตอร์เน็ต ซึ่งจากประสบการณ์ส่วนตัวของผมเอง และที่ได้ยินรับทราบมาก็คือ interface หรือหน้าตาของโปรแกรม Google Chrome จะดูแปลกๆ แตกต่างจากโปรแกรมท่องเน็ตของค่ายอื่นๆ อยู่บ้าง คือไม่มีเมนูการใช้งานด้านบนให้ผู้ใช้งานคลิกเลือกปรับแต่งหรือใช้งาน ทั้งนี้เนื่องจากว่าทางผู้พัฒนาต้องการให้ผู้ใช้งานมีพื้นที่ในการใช้งานและท่องเน็ตได้แบบเต็มๆ ไม่มีส่วนองเมนูด้านบนนั้นเอง โดยทาง Google Chrome ได้ซ่อนเมนูคำสั่งการใช้งานหรือการปรับแต่งค่าจำเป็นพื้นฐานในการใช้งานไว้ที่ icon รูปประแจ เล็กๆ มุมบนขวามือ ใกล้ๆ กับรูปดาวเล็กๆ สีเหลืองนั้นเอง ซึ่งการปรับแต่งค่าใช้งานที่จำเป็นหรือที่ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตต้องการก็อาจจะมีหลายประการ สำหรับเนื้อหาในวันนี้ผมจะขอกล่าวถึงการปรับแต่งการใช้งาน Google Chrome ใน 3 ส่วนด้วยกัน คือ

  • การตั้งค่าหน้าแรกหรือ Homepage ให้เป็น Google.co.th ทุกครั้งที่เราเปิดขึ้นมา
  • การตั้งค่าภาษาหรือ Encoding เพื่อให้แสดงภาษาไทย กรณีเปิดเว็บขึ้นมาแล้วเป็นภาษาที่เราอ่านไม่ออก
  • การกำหนดค่าการเชื่อมต่อหรือ connection ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตแชร์ริงแบบ พร็อกซี่ internet connection proxy setting

โดยทั้งสามข้อเราจะเริ่มต้นจากการคลิก icon ประแจเล็กๆบริเวณมุมบนขวาของโปรแกรมครับ เรามาเริ่มกันเลยครับ โดยผมได้จับภาพหน้าจอประกอบการอธิบายดังนี้ครับ
1 ขั้นตอนที่ 1 คลิก ที่ประแจ จากนั้นเลื่อนลงมาคลิกที่เมนู Options
2 คลิกเลือกคำสั่ง ในช่องของHome page: ให้เราคลิกเลือก Open this page: เพื่อกำหนดให้หน้าแรกเป็น http://www.google.co.th (พิมพ์ข้อมูลเข้าไป) คลิกปุ่ม Close จากนั้นปิดโปรแกรมออกไปก่อน เมื่อเราเปิดใหม่ เราก็จะได้หน้าแรกเป็นกูเกิลตามต้องการ

การตั้งค่าภาษาไทยของ Google Chrome
ปัญหาก็คือปกติแล้วโปรแกรมจะ detect หรือตรวจจับภาษาที่ใช้งานบนเว็บไซต์ให้เราอัตโนมัติอยู่แล้ว แต่บางครั้งอาจจะมีปัญหาแสดงผลตัวแปลภาษาไม่ทำงานหรือไม่ถูกต้อง ทำใหผู้ใช้งานต้องเข้าไประบุให้ทำงานถึงจะแสดงผลภาษาได้ถูกต้อง
ขั้นตอนก็เริ่มจากการคลิกที่ icon รูปประแจ จานั้นเลื่อนไปที่เมนู Tools / Encoding /และคลิกเลือกภาษา Thai เพียงเท่านี้ก็จะแสดงผลภาษาไทยให้เราอย่างถูกต้องครับ
สำหรับส่วนที่สามเป็นการตั้งค่าการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ผ่าน Proxy ซึ่งเราจะต้องทราบหมายเลขค่า IP Address ของเครื่องแม่ข่ายที่เป็นเครื่องแจกจ่ายสัญญาณอินเตอร์เน็ต สอบถามจากผู้ดูแลระบบ LAN ของสำนักงานหรือองค์กร จากนั้นให้เราคลิกที่รูปประแจ จากนั้นเลื่อนไปคลิกที่ Options / คลิกที่แท็บ Under the Hood
คลิกที่ Change Proxy setting เพื่อเข้าไปตั้งค่าการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านระบบอินเตอร์เน็ตแชร์ริงหรือ Proxy
คลิกที่คำสั่ง LAN setting เพื่อเข้าไปตั้งค่า IP Address ของเครื่องแม่ข่ายครับ (สอบถามจากผู้ดูละระบบอินเตอร์เน็ตขององค์กร)
ติ้กที่ Use a proxy server for your LAN ป้อนค่า ip เข้าไปตามตัวอย่างจากนั้นคลิก OK ก็เป็นอันเรียบร้อย จากนั้นให้เราลองเปิดเว็บพจเพื่อทดสอบการใช้งานครับ

Mafia II คู่หูเดือดข้ามมาใหญ่

เรื่องราวของเกมส์เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ ที่มีวิจารณาณาณ เนื่องจากเนื้อหามีความรุนแรง การฆ่าแกง ตะแคงเลือด จึงเหมาะสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น เด็กๆ อายุต่ำกว่าสิบแปดไม่สมควรนะครับ

เกมส์ทำออกมาใกล้เคียงกับเกมส์อย่าง GTA และ RDR ซึ่งมีเนื้อหาเต็มไปด้วยความรุนแรง แต่แทรกด้วยด้วยอารมณ์ขันในบางครั้ง โดยสรุปเกมส์มาเฟียทู จัดเป็นเกมส์สนุกสนานที่เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ที่ต้องการเล่นเกมส์เพื่อความสนุกเท่านั้นในเวลาว่างของคุณ โดยเกมส์เล่นถ่ายทอดออกมาในลักษระการเล่าเรื่องแบบ Movie หรือภาพยนตร์นั้นเอง หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบเกมส์แนวนี้ก็ลองสามารถหาดาวโหลดมาทดลองเล่นกันได้ครับ
โหลด MAfie II เดโม
ขนาดไฟล์
ก่อนการดาวโหลดคุณจะต้องกรอกวันเดือนปีเกิดของคุณเข้าไปก่อน เพื่อเป็นการตรวจสอบว่าอายุของคุณอยู่ในระดับที่ยอมรับให้ดาวโหลดเกมส์นี้มาเล่นได้ หนูๆ น้องๆ อายุไม่ถึง 18 อย่าโกงกรอกข้อมูลเท็จเข้าไปนะครับ

ระบบที่ต้องการสำหรับเกม Mafia II ของเครื่องพีซี
ระบบขั้นต่ำ
ระบบปฏิบัติการ: Microsoft Windows XP (SP2 หรือสูงกว่า) / Windows Vista / Windows 7
ซีพียู: Pentium D ความเร็ว 3Ghz หรือ AMD Athlon 64 X2 3600+ (Dual core) หรือสูงกว่า
หน่วยความจำ: 1.5 GB RAM
เนื้อที่ว่างฮาร์ดดิสก์: 8GB
การ์ดแสดงผล: nVidia GeForce 8600 / ATI HD2600 Pro หรือดีกว่า
ซาวด์การ์ด: ต้องรองรับ DirectX 9.0c
อุปการณ์เสริม: คีย์บอร์ดและเมาส์หรืออุปกรณ์เกมแพดที่รองรับระบบปฏิบัติการวินโดว์

ระบบที่แนะนำ
ระบบปฏิบัติการ: Microsoft Windows XP (SP2 หรือสูงกว่า) / Windows Vista / Windows 7
ซีพียู: 2.4 GHz Quad Core processor
หน่วยความจำ: 2GB RAM
เนื้อที่ว่างฮาร์ดดิสก์: 10GB
การ์ดแสดงผล: nVidia GeForce 9800 GTX / ATI Radeon HD 3870 หรือดีกว่า
ซาวด์การ์ด: ต้องรองรับ DirectX 9.0c
อุปการณ์เสริม: คีย์บอร์ดและเมาส์หรืออุปกรณ์เกมแพดที่รองรับระบบปฏิบัติการวินโดว์
ใช้โปแกรม Steam (Valve Corporation) ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตเพื่อทำการยืนยันสิทธิ์และเล่น

Acer กำหนดเปิดตัวใหม่ tablet พีซี 2 รุ่นวันพรุ่งนี้

ตามอ้างอิงจาก DigiTimes, ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ notebook และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์รายใหญ่ของใต้หวันเปิดเผยว่าทาง Acer วางแผนที่จะเปิดตัวของ แท็บเล็บ พีซี ในวันพรุ่งนี้ ตามการแถลงต่อสื่อในกรุง New York.

โดยหนึ่งในสองคือ หน้าจอขนาด 10-inch มาพร้อมระบบ Windows 7-based slate, ขณะที่อีกรุ่นจะเล็กกว่าคือขนาด 7-inch ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 2.2 device. โดยก่อนหน้าวันที่จะมีการประกาศแถลงข่าวการเปิดตัวของเครื่องดังกล่าว ทาง Acer พยายามอย่างหนักที่จะเปิดตัวรุ่นที่ใช้งานระบบ Android tablet ซึ่งไม่ได้สร้างขึ้นมาพร้อมๆกับ Gingerbread (Android 2.3) sinv Honeycomb (Android 3.0), แม้ว่าทาง Acer จะทราบดีว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขันทางตลาดกับ Galaxy Tab และ Folio 100.
โดยสรุป สำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์บ้านเราก็นับว่ามีทางเลือกที่มากขึ้น ในการหาซื้อเครื่อง Tablet PC มาใช้งานนอกเหนือจากของดังอย่าง IPAD ไอแพด ของ Apple แล้ว ก็มี Acer Tablet PC เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจนะครับ อีกเหตุผลหนึ่งก็คือง่ายในการเคลมและประกันนะครับ เพราะตลาดสินค้าไอที Acer ในบ้านเรามีมากนั้นเองครับ

Also joining the fray is Velocity Micro's 7-inch Cruz tablet, which as we reported earlier is now shipping. Throw into the mix Apple's iOS 4.2 update for the iPad and things are finally starting to look interesting in the tablet market.
ที่มาเนื้อหาข่าวและภาพ http://www.maximumpc.com/article/news/acer_reportedly_launching_two_tablets_tomorrow

จัดการรหัสผ่านด้วย LastPass

LastPass ฟรีแวร์สำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ในการจดจำรหัสผ่านของคุณ โดยโปรแกรมจะสร้างรหัสผ่านการใช้งานที่แข็งแรงให้เรา ซึ่งเรามีเพียงรหัสผ่านเดียวในการจดจำ โดยโปรแกรม LastPass สามารถทำงานร่วมกับโปรแกรมท่องเน็ตอย่าง Internet Explorer, Firefox, Safari (for Mac), Google Chrome และ Opera โดยโปรแกรม LastPass ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Host Proof Hosting techniques ในการตรวจสอบข้อมูลรหัสผ่านใช้งานต่างๆ ของเราเช่น Email,hi5,facebook และ อื่นๆ โดยที่โปรแกรม LastPassจะไม่เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณ โดยโปรแกรม LastPass เสนอการอัพเกรดเพื่อการทำงานกับโทรศัพท์มือถือระบบต่างๆ เช่น iPhone, BlackBerry, Windows Mobile, Google Android, Palm webOS, and Symbian phones เป็นต้น สนใจสามารถดาวโหลดมาติดตั้งและใช้งานได้ครับ

ดาวโหลด LastPass
ขนาดไฟล์ 8.33MB
รองรับ Windows 2000/XP/Vista/7
วิธีการติดตั้งและใช้งานพื้นฐาน
1 คลิกไฟล์ที่ดาวโหลดมาแล้วเพื่อติดตั้งตามปกติ
2 เลือกภาษาในการใช้งานเป็นภาษา Thai ครับ จากนั้นคลิก Next
3 บอกเหตผลว่าทำไมต้องใช้ Lastpass เนื่องจาก ความเชือถือได้ ความปลอดภัย ความง่าย และฟรี และบอกขั้นตอนการติดตั้งต่อ 5 ขั้นตอน คือ
  • ติดตั้งตัวเลือกหรือ install options
  • สร้างบัญชีผู้ใช้งาน
  • นำเข้าข้อมูล
  • ปกป้องข้อมูล
  • ตั้งค่าการกรอกข้อมูล

พร้อมแล้วก็คลิก Next เพื่อเริ่มการทำงานครับ

4 โปรแกรม Lastpass จะทำงานควบคู่กับโปรแกรมท่องเน็ตของเรา ie,firefox,chrome เป็นต้น ให้เราคลิก Next เพื่อยอมรับการติดตั้งส่วนขยายเข้ากับโปรแกรมท่องเน็ตของเรา
5 สร้างบัญชีผู้ใช้งานของเรา ใส่อีเมลที่ใช้งานได้จริงของเรา และกำหนดรหัสผ่านให้จำได้ง่ายแต่ยากในการเดาของคนอื่น คลิกยอมรับเงื่อนไขการใช้งานและคลิก Next เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปจบครบ และสามารถใช้งานได้ หลังจากนั้น โปรแกรมท่องเน็ตของเราก็จะมีส่วนขยายของ Lastpass ในการช่วยจดจำรหัสผ่านการใช้งานอินเตอร์เน็ตทุกชนิดให้เรา แค่เราคลิกเลือกจากรายการที่จดจำไว้ เราก็สามารถเข้าถึงข้อมูลหรือแหล่งอินเตอร์เน็ตต่างๆของเราได้ทันที
โดยสรุป เป็นฟรีแวร์จัดการรหัสผ่านระดับ 5 ดาว ที่กำลังครองความนิยมจากผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตจำนวนมากในปัจจุบันนี้ครับ เอาเป็นว่าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่เบื่อกับการต้องกรอกข้อมูลรหัสผ่านเข้าออกเว็บไซต์ต่างๆ บนอินเตอร์เน็ตเป็นประจำละก็ ลองใช้งานโปรแกรมนี้ดูได้ รับรองไม่ผิดหวังครับ
LastPass is the last password you will ever need. It allows you to: Create strong passwords, knowing you only have to remember one. LastPass has addons for: Internet Explorer, Firefox, Safari (for Mac), Google Chrome, and works with other browsers with Bookmarklets (e.g. Opera). LastPass uses Host Proof Hosting techniques to synchronize your passwords all while LastPass never has access to your sensitive data. LastPass offers a premium upgrade as well for mobile access on iPhone, BlackBerry, Windows Mobile, Google Android, Palm webOS, and Symbian phones.