คาดการณ์ตลาดคอมพิวเตอร์ PC จะกลับมาครองตลาดสินค้าคอมพิวเตอร์และ IT ภายในอีก 2 ปี คือในปี 2019 โดยคาดการณ์จากการเติมโตขอการผลิตและคามต้องการของลูกค้า สำหรับคอมพิวเตอร์ที่คาดว่าจะได้รับความนิยมต่อไปสูงคือ ตระกูล Microsoft Surface กับเครื่อง Apple iPad Pro จะแข่งขันกันทางตลาดเพื่อครองส่วนแบ่งของผู้บริโภค
โดยแนวคิดในการใช้งาน คือเป็นอุปกรณ์ PC ที่มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ง่ายสะดวกในการพกพาและนำออกมาใช้งาน ตอบโจทย์การสื่อสารข้อมูล การทำงาน และธุรกิจ
โดยในรุ่นของ Microsoft Surface จะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 แบบ OEM
การพยาการณ์การเติมโตของ PC สองตระกูลในอีก 2ปีข้างหน้าดังกล่าว ก็จะสวนทางกับการคาดการณ์การชลอตัวและตกลงของอุปกรณ์พกพาอย่าง Android และ iPhone น่าจะหมายถึงตลาดมือถือและอุปกรณ์พวก Tablets
ความสำเร็จของการแบ่งตลาดนี้ น่าจะเกิดจากความสำเร็จของระบบปฏิบติการ Windows 10 นั้นเอง ในการตอบโจทย์การใช้งาน ที่ครบทุกความ้องการของผู้ใช้งาน
ทั้งสอบแบบต่างก็มีจุดเด่นและขีดความสามารถที่ใกล้เคียงกันมากๆ โดย ที่ Microsoft Surface จะมาพร้อมความสามารถของการทำงาน MS Office ที่หลายคนคุ้นเคย และรองรับ Port สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอก ทั้ง USB และ SD CARD
สนนราคาของอุปกรณ์ทั้งสองชนิด ก็ถือ่า ใกล้เคียงกัน ราคาประมาณ 3 หมื่นบาทต้นๆ ขึ้นอยู่กับ ความจุและหน่วยความจำ ของแต่ละรุ่น
อ้างอิงมาจาก http://news.softpedia.com/news/microsoft-surface-apple-ipad-pro-could-save-the-pc-by-2019-516129.shtml
Sound Cards vs. Onboard Audio
ข้อแตกต่างของการ์ดเสียง Onboard กับ การ์ดเสียงแบบแยก
การ์ดเสียงชนิด Onboard หมายถึงการ์ดเสียงที่ผลิตและติดตั้งมาพร้อมกับเมนอร์ด Motherboard ของคอมพิวเตอร์ โดยทั่วไป จะมีขนาดเล็ก และมีความสามารถที่จำกัด เรียกแบบภาษาชาวบ้านว่า พื้นๆ พอให้สามารถฟังเสียง หรือมีเสียง ประมาณนั้น ไม่ว่าจะเป็นการเล่นไฟล์เพลง การดูหนัง หรือฟังเพลง ซึ่งจะแย่ไปหนัก ถ้าลำโพงหรือหูฟังมีคุณภาพต่ำ ตามไปด้วย
ข้อดีของการ์ดเสียงชนิดนี้คือ ราคาถูก ประหยัดค่าใช้จ่าย ถ้าใครที่ไม่เน้นการทำงานที่เกี่ยวกับการตัดต่อ หรือการประชุมทางไกลที่ต้องการคุณภาพเสียง ที่คมชัด และมีการตัดเสียงรบกวนต่างๆ ได้ดี การ์ดเสียง Onboard ก็ถือว่า Ok
ส่วนใครที่ต้องการฟังอะไรที่มันชัดเจน ทุ้ม นุ่มนวล ปรับเสียงต่างๆ ได้หลากหลาย ก้ต้องลงทุน หาซื้อการ์ดเสียง แบบแยก มาติดตั้งใช้งานเพิ่มเติม
ส่วนตัวของ Admin ขอแนะนำจากที่เคยใช้งานมา จะขอแนะนำของค่าย Creative Sound Blaster ครับ ซึ่งาคา เริ่มต้นจากหลัก พันต้นๆ ไปจนถึง หลายๆ พัน ก้สามารถลองมาใช้งานตามงบประมาณของคุณได้ หาหุฟังดีๆ และลำโพงดีๆ อีกสักคู่ รับรองว่า คุณจะลืมเรื่องการฟังเพลง โดยใช้ Sound On board ไปเลย
การ์ดเสียงชนิด Onboard หมายถึงการ์ดเสียงที่ผลิตและติดตั้งมาพร้อมกับเมนอร์ด Motherboard ของคอมพิวเตอร์ โดยทั่วไป จะมีขนาดเล็ก และมีความสามารถที่จำกัด เรียกแบบภาษาชาวบ้านว่า พื้นๆ พอให้สามารถฟังเสียง หรือมีเสียง ประมาณนั้น ไม่ว่าจะเป็นการเล่นไฟล์เพลง การดูหนัง หรือฟังเพลง ซึ่งจะแย่ไปหนัก ถ้าลำโพงหรือหูฟังมีคุณภาพต่ำ ตามไปด้วย
ข้อดีของการ์ดเสียงชนิดนี้คือ ราคาถูก ประหยัดค่าใช้จ่าย ถ้าใครที่ไม่เน้นการทำงานที่เกี่ยวกับการตัดต่อ หรือการประชุมทางไกลที่ต้องการคุณภาพเสียง ที่คมชัด และมีการตัดเสียงรบกวนต่างๆ ได้ดี การ์ดเสียง Onboard ก็ถือว่า Ok
ส่วนใครที่ต้องการฟังอะไรที่มันชัดเจน ทุ้ม นุ่มนวล ปรับเสียงต่างๆ ได้หลากหลาย ก้ต้องลงทุน หาซื้อการ์ดเสียง แบบแยก มาติดตั้งใช้งานเพิ่มเติม
ส่วนตัวของ Admin ขอแนะนำจากที่เคยใช้งานมา จะขอแนะนำของค่าย Creative Sound Blaster ครับ ซึ่งาคา เริ่มต้นจากหลัก พันต้นๆ ไปจนถึง หลายๆ พัน ก้สามารถลองมาใช้งานตามงบประมาณของคุณได้ หาหุฟังดีๆ และลำโพงดีๆ อีกสักคู่ รับรองว่า คุณจะลืมเรื่องการฟังเพลง โดยใช้ Sound On board ไปเลย
ขายสินค้าออนไลน์ด้วย Hikashop
Hikashop เป็นอีก 1 ส่วนขยายความสามารถในการสร้างหรือทำให้เว็บไซต์ Joomla ของท่าน เป็นร้านค้าออนไลน์ สำหรับการขายสินค้าต่าง ๆ ของท่านได้
คุณสมบัติ
พัฒนาแบบเปิด มีราคาฟรี และเสียเงิน ถ้าต้องการ ความสามารถสูง ๆ ขึ้นไปอีก
สำหรับร้านค้า หรือ ผู้สนใจใช้งาน ควรจะมีความรู้ พื้นฐานของ CSS และ HTML จะช่วยให้การใช้งานสะดวก และไม่ติดขัด
Hikashop รองรับการจัดการร้านค้าได้หลายสาขา การายการขาย พร้อมวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อการขายที่ประสพความสำเร็จ
Hikashop is a powerful and easy to setup an use, comes with unlimited possibilities.Whilst it might not have as much functionality as other shop in this list.
Frankly speaking when you are getting your eCommerce site build with HikaShop, you need to know a little bit CSS and HTML to beautify and tweak it around. But on top of that Hikashop is growing among the developer community, because of its covering huge features like multi-vendor, powerful analytics, responsive design, layout variation which reduce the usage and dependency of third party extensions.
Price: FREE - $150
Compatibility: Joomla a 1.5, 2.5 and 3.X
Documentation: http://www.hikashop.com/support/documentation.html
ขายสินค้าบนเว็บไซต์ด้วย DigiCom
สำหรับดาวโหลดและติดตั้งใช้งานฟรี สำหรับร้านค้าออนไลน์ หรือเจ้าของเว็บไซต์ออนไลน์ที่สร้างด้วย Joomla
คุณสมบัติของ DigiCom คือเป็นของฟรี ไม่ต้องเสียเงินจ่าย โดยติตั้งเป็นองค์ประกอบเพิ่มของเว็บไซต์ สามารถช่วยในการ ตั้งร้านขายสินค้าออนไลน์ได้รวดเร็ว ส่วนจะขายออกหรือไม่ออก คนละเรื่องกัน
ว่ากันว่าโปรแกรมมีขนาดเล็ก ไม่หนักมาก และออกแบบส่วนใช้งานได้ดี
สำหรับการชำระเงินทางออนไลน์นั้น ก็จะมีช่องทางที่นิยมในปัจจุบัน
สนใจดูเพิ่มเติมและดาวโหลดฟรีได้ตามลิงค์ครับ
DigiCom is an another open-source and first Digital Commerce extension for Joomla. The key focus of this component is to provide such a software that enable you to quickly and easily setup your own marketplace in a minute. DigiCom is lightweight and user friendly, crafted with add-ons based structure meaning only install the add-ons according to your need. no more bloated code and features.
DigiCom is specially designed to sell digital products comes with dedicated drag and drop file manager and a couple of payment integration. If you are looking for the endorsement to make your next website with DigiCom, I am glad to say ThemeXpert total digital selling system is running on DigiCom. No more fuss no more confusing, DigiCom is running in full swing with clean Dashboard and Sales analytics.
Price: Free
Compatibility: Joomla 3.X
Documentation: Coming Soon
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)