แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ IT Update แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ IT Update แสดงบทความทั้งหมด

เปรียบเทียบราคาอินเตอร์เน็ตในไทย

ราคาเริ่มต้น ประกอบไปด้วย ค่าย อะไรบ้าง ในบ้านเรา ที่เห็นโฆษณา และใช้บริการกันอยู่มีที่ไหนบ้าง ราคาเท่าไหร่ การติดตั้งการใช้งาน การบริการหลังการขาย และปัจจัยอื่นๆ
แต่เนื้อหาวันนี้ จะเอาเฉพาะเรื่องงบประมาณ เป็นตัวเทียบ โดยเทียบกับ speed และความเร็ว 
ราคา ก็จะเป็นรายเดือน ว่า เท่ากัน แพงกว่า ถูกว่า เท่านั้น 
เพื่อเป็นข้อมูล สำหรับทานที่สนใจ ข้อมูลดังกล่าว อาจจะกำลังติดตั้ง อาจจะต้องการยกเลิก ของเดิม และหันไปหาเจ้าใหม่ หรืออาจจะอยากทราบข้อมูลเฉยๆ ก็ไม่ว่ากัน 

ข้อที่ 1 เครือข่ายผู้ให้บริการ

3BB
TOT
CAT
TRUE MOVE

เท่าที่นึกออกและเคยใช้งาน มา น่าจะมีเท่านี้ ใครที่ใช้บริการของเจ้าอื่นๆ รบกวนแจ้งเพิ่มเติมด้วย จะขอบคุณมากๆ ครับ 
เคยสงสัยไหมว่า ทั้ง 4 ค่ายนี้แข่งขันกัน แต่มีกรอบหรือกติกาที่ตกลงกันทางการตลาด เช่น สว่นแบ่ง Zone หรือ พื้นที่แบบนี้ หรือว่าแข่งกันเสรี ผมเองก็ไม่ทราบแท้จริง และไม่ต้องการจะเดา เช่นกัน 

เอาเป็นว่า ลองดูว่า อัตราค่าบริการ รายเดือนของแต่ละค่าย รวมโปรโมชั่น สงเสริมการขาย ของแต่ละค่าย เป็นอย่างไรกันบ้างดีกว่า ครับ 
จำนวน ผู้ใช้งาน อินเตอร์เน็ต ตามบ้าน สถานศึกษา สถานที่ราชการ สำนักงาน โรงงาน โรงไฟฟ้า แหล่งผลิต บลาๆ ฯลฯ ของไทย ที่มีการลงทะเบียนใช้งาน จำนวน เท่าไหร่ ผมเองก้ไม่ทราบเช่นกันแหละ แต่ประมาณเอาว่า คงไม่น้อยเช่นกัน ง่ายๆ บ้านผม และสำนักงาน ที่ผมทำงานอยู่ก็ใช้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงอยู่ เป็นประจำ เช่นกัน มานาน หลายปีแล้ว ตั้งแต่เริ่ม ทำตลาดครั้งแรกๆ เลยก็ว่า ได้ 
ทิศทางการพัฒนาความเร็วในการให้บริการของค่ายอินเตอร์เน็ตในประเทศไทย
แน่นอนว่า ทุกค่าย ต่างก็ไม่หยุดนิ่ง ในการพัฒนาประสิทธิภาพ และความเร็วในการให้บริการ โดยการปรับเปลี่ยน media หรือสื่อสายนำสัญญาณ จากระบบ สายเคเบิลแบบ สายทองแดง มาเป็นสายนำสัญญาณแบบ Fiber optic เส้นเคเบิลใยแก้วนำแสง ซึ่งจะให้ความเร็วในการรับส่งข้อมูล ที่ดีกว่า ไวกว่า แบบเดิม หลายเท่าตัว ซึ่งแน่นอนว่า อัตราค่าบริการก็จะแพงกว่าแบบ เดิมหรือที่รู้จักกันในนามของ ADSL อยู่เช่นกัน น่าจะประมาณ 1 เท่า ขึ้นไป
ง่่ายๆ ราคาแบบเดิมคือ ADSL ความเร็ว 6-8 MB ราคาประมาณ 630 บาท ต่อเดือน

กรณี จะปรับเป็นระบบ FTTX หรือสาย Fiber Optic จะได้ความเร็ว มากขึ้นประมาณ 30 Mb ราคาประมาณ1200 บาท ต่อเดือนครับ

ถ้าจะถามว่า อยากเปลี่ยนมาใช้งานความเร็ว ขนาดนั้นหรือเปล่า กับราคาที่อัพ เพิ่มขึ้นมา ส่วนตัว ผมคงให้คำแนะนำว่า ขึ้นอยู่กับ ความจำเป็นในการใช้งาน และจำนวนของเครื่องที่เราแชร์ ภายในบ้าน และสุดท้าย คงต้องดูงบประมาณ รายได้ของเรา ว่า ไหวหรือเปล่าคุ้มค่า หรือเปล่า ที่จะจ่าย 1200 /เดือน


ค่าย 3BB ราคา ADSL 10 MB อัตรา 599 บาท/เดือน
FTTX เป็น Fiber optic แล้ว 30mb/3mb ราคา 1200/เดือน

ค่าย TOT แบบ ADSL 10 MB อัตรา 599 บาท/เดือน
FTTX เป็น Fiber optic แล้ว 30mb/3mb ราคา 1200/เดือน

TOT กับความพยายามในการรักษาฐษนกลุ่มลูกค้าโทรศัพท์บ้าน ไว้ ในยุคที่ การสื่อสาร ไร้สายเต็มประเทศ และเกิดแอพพลิเคชั่นการสื่อสาร รูปแบบใหม่ๆ ที่อาจจะจะทำให้โทรศัพท์แบบบ้าน กลายเป็นตำนาน
ใช้เน็ตในราคานี้ แต่เสริมโปร โทรฟรี โทรศัพท์ บ้านแบบ ไม่จำจัดเวลา กันเลยทีเดียวครับ ส่วนจะได้ผลประการใดหรือไม่ ตลาดผู้บริโภค คงเป็นคำตอบ

CAT HiNet
ค่าย CAT  แบบ ADSL 10 MB อัตรา 690บาท/เดือน
FTTX เป็น Fiber optic ยังไม่มีข้อมูลครับ อาจจะกำลังดำเนินการ หรือว่า ต้องสอบถามจาก ศูนย์บริการด้วยตนเอง

CATเป็นค่ายเดียว ที่ผมเคยใช้บริการแล้ว มีการแยก สายสัญญาณเน็ต ออกจากโทรศัพท์ ทำให้ ไม่ต้องกังวลเรื่องบิลค่าโทรศัพท์บ้านเลย สายเข้ามา เพียวๆ เลย คือ สัญญาณอินเตอร์เท่านั้น

ค่ายสุดท้าย ที่เห็นบ่อยๆ บนหน้าจอทีวี
เน็ตบ้านทรู
ราคาเริ่มต้น ที่ 599 บาท/เดือน ความเร็ว 15MB โดยเป็นสัญญาณแบบ Fiber Optic เคเบิลใยแก้ว นำแสงครับ
ถ้ากรณี ความเร็ว 30Mb /3mb ค่าบริการก็จะระดับเดียวกัน กับ 2 ค่าย ที่กล่าวมาแล้ว คือ 1299 บาท ครับ

สิ่งที่น่าคิดตอนนี้ของทุกคนคือ 

พอใจกับความเร็วและค่าใช้จ่ายเดิมที่เป็นอยู่หรือไม่ หรืออยากจะลองเปลี่ยน หรืออัพเกรดไปใช้ความเร็วแบบ Fiber Optic กันไหม ในราคา ประมาณ 1200 บาทนิดๆ ต่อเดือน ตามที่กล่าวมาครับ แล้วจะได้อัตราความเร็วในการใช้งานที่พึงพอใจมากขึ้น กว่าเดิมแค่ไหน หรือจะรอดูแนวโน้มของตลาดและการแข่งขันกันสักพักหนึ่ง คงจะเห็นอะไรที่มีการแข่งขัน และการปรับตัว ทะยอยออกมา ให้ลูกค้า ประชาชน คนไทย ทั้งในตัวเมือง ต่างจังหวัด อำเภอและตำบล หรือ หมู่บ่าน หรือ ชุมชน ต่างๆ ได้พิจารณาและประกอบการตัดสินใจครับ

เกี่ยวกับบล็อก thaifreewaredownload.com

เกี่ยวกับ thaifreewaredownload.com เป็นบล็อกที่รวบรวม Freeware ยอดนิยม แบ่งตาม หมวดหมู่การใช้งาน สำหรับ Home Users นักเรียน นักศึกษา หน่วยงานหรือองค์กรที่ไม่แสวงกำไรโดยทั่วไป รวมทั้งประชาชนที่สนใจทั่วไป 
ความมุ่งหมาย อยากจะเป็นบล็อกที่เป็นมากกว่า การให้คำแนะนำว่า โปรแกรมนี้ ใช้ทำอะไร แต่จะเน้นคำแนะนำพื้นฐานการใช้งานจริง ให้กับผู้เยี่ยมชมด้วยเช่น กัน อย่างไรก็ตามเนื่องจาก จำนวนของเนื้อหา ที่ออกมาใหม่ๆ มากขึ้น ทำให้ความสับสน และการจัดระเบียบ ต้องมีการทบทวน รวมทั้งเนื้อหา ที่เก่า และล้าสมัย และอาจจะรวมบางบทความหรือ เนื้อหา ที่อาจจะไม่ได้รับการทดสอบ และใช้งานอย่างเพียงพอในการใช้งานจริง ซึ่งต้องได้รับการแก้ไขและปรับปรุงในโอกาส ต่อไป 
สำหรับเนื้อหาของบล็อก มาจากการสืบค้น เรียบเรียงและแปลจากต้นฉบับของผู้พัฒนาโปรแกรม เป็นส่วนใหญ่ บางส่วนมีการเขียนและบันทึกการใช้งาน จากประสบการณ์จริง ในการทำงานด้าน IT ของผู้เขียน ซึ่งทำงานด้าน คอมพิวเตอร์เครือข่าย ให้กับส่วนราชการหนึ่งมานานกว่า 20 ปี ดังกล่าว ซึ่งเห็นว่ามีประโยชน์และน่าสนใจ ในการถ่ายทอดและเรียนรู้ต่อไป 

หน้าตาแรกเริ่มเดิมทีของบล็อกนี้ครับ ปี 2009



เหตุผลที่เลือกใช้บริการของ Blogspot เนื่องจากเป็นของฟรี ที่มีความเร็ว และประสิทธิภาพในการให้บริการที่ดี มีองค์ประกอบของบล็อก ที่ง่ายต่อการใช้งาน และการดัดแปลงแก้ไข edit บางส่วน ให้ตรงกับความต้องการของเราได้ 
และอีกประการคือ เจ้าของหรือพันธมิตรเครือข่ายหลักก็คือ Google นั้นเอง จึงน่าจะประกันและรับรองถึง SEO และ การ index ที่ถูกต้องและรวดเร็ว 
บล็อกนี้ อาจจะมีการแตกกิ่งก้านสาขาออกไป ตามวันเวลา ที่ผ่านไป และเทคโนโลยี ที่เปลี่ยนแปลงไป แต่วัตถุประสงค์หลัก ยังไม่เปลี่ยนไป ตามที่ยังมีคนใช้งาน PC หรือ Laptop อยู่ ก็เชื่อว่า ความต้องการ และองค์ความรู้เหล่า นี้ ก็ยังเป็นที่ต้องการของผู้ใช้งาน เสมอ 

เดิมผู้เขียน ตั้งใจว่า content is the king คือ สนใจแต่เนื้อหา และการใช้งานจริงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม คงต้อง Review และทบทวนกันใหม่ ในแง่ของ ความสวยงาม ทั้งภาพ และวิดีโอ ประกอบ 
Next Step ที่วางแผนไว้ คือ การปรับเปลี่ยนไปสู่ Custom โดเมน ซึ่งคงต้องขอใช้บริการกับของทาง Google หรือ พันธมิตร เช่นเดิม เนื่องจากความผูกพันกันมา จะตัดกันก็คงไม่ขาด เว้นแต่ทางกูเกิล จะเป็นคนตัดเอง 

ผลกระทบที่จะตามมา คงจะมีบ้าง แต่จะเป็นบวกลบ และมากน้อย เพียงไหน คงต้องเสี่ยงกันหน่อย 
หลังจาก ที่ผมเริ่มทำบล็อกนี้เป็นครั้งแรก ในปี 2009  มาถึงปัจจุบัน ก็ 7 ปีเข้าไปแล้ว มีบทความที่เรียบเรียงและเขียนคนเดียวกว่า 1700 บทความ 

7 ปี ที่ก้าวเดินมา 



ในอนาคต ทิศทางของการเขียน คงจะมีการเพิ่มเติม เนื้อหา เกี่ยงกับ App ใหม่ ที่ใช้งานกับมือถือ Smartphone and Tablets มากขึ้น 
รวมทั้งการ Review และทบทวนบทความเก่าๆ ที่ยังมีประโยชน์ ให้ถูกต้องและทันสมัย Update ให้เป็นปัจจุบัน มากขึ้น 

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมบล็อกแห่งนี้นะครับ 
Admin
mycom

เปรียบเทียบ Surface Pro 3 กับ MacBook Air 2014 ?

จับกระแสการเปิดตัวของ Microsoft Surface Pro 3 ที่ผสมผสานคอมพิวเตอร์แล็บท็อบเข้ากับแท็บเล็ตอย่างลงตัว เรียกว่าเป็นจุดเด่นหรือจุดขายที่ทาง Microsoft ประกาศออกมาอย่างชัดเจน สำหรับลูกค้าที่ต้องการ 2 อย่างในเครื่องเดียวอย่างลงตัว น่าประทับใจ และไม่ด้อยไปกว่ากันในด้านใดด้านหนึ่ง

แน่นอนว่าระหว่างการเปิดตัว Microsoft Surface Pro 3 ต่อสื่อต่างๆ ทาง Microsoft ได้ประกาศชัดเจนถึงจุดประสงค์ของ Microsoft Surface Pro 3 ว่าทำออกมาเพื่อแย่งตลาดและแข่งขันกันกับ ตลาดคู่แข่งอย่าง MacBook Air ของค่าย Apple นั้นเอง อย่างที่บอกไปแล้วว่าอุปกรณ์ตัวนี้ไม่ใช่แท็บเล็ต แต่เป็นคอมพิวเตอร์ลูกสมหรือ hybrid ที่ทำออกมาเพื่อให้มีความสามารถที่เหนือกว่า แล็บท็อบ อย่าง MacBook Air อย่างไรก็ตามถ้าลองเปรียบเทียบประสิทธิภาพ ราคา และความสามารถกันแล้ว น่าสนใจไม่น้อยว่าตัวไหนจะคุ้มค่าและน่าหามาใช้งานมากกว่า

หน้าจอสัมผัส?

ประการแรกสุด MacBook ไม่ใช่แท็บเล็ต หากคุณต้องการจะชื่อแท็บเล็ตของ Apple ก็ต้องแยกซื้อเป็น iPad Air ขณะที่ จุดเด่นและข้อได้เปรียบของ Microsoft Surface Pro 3 ก็คือเป็นทั้งแท็บเล็ตและ Loptop ในตัวเอง

การทำงานเป็นแท็บเล็ตของ Microsoft Surface Pro 3 โดยพื้นฐานเลย ก็จะมีพวกแอพพลิเคชั่นที่สามารถดาวโหลดได้จาก ร้านค้าของวินโดว์ Windows Store, การทำงานแบบหน้าจอสัมผัส ที่สามารถเปิดปิดหรือทำงานแอพต่างๆ ได้พร้อมกัน รวมทั้งหน้าจอที่สวยงามน่าใช้งาน

แน่นอนว่า Microsoft Surface Pro 3 ไม่ใช่แท็บเล็ตโดยกำเนิดอย่างพวก iPad หรือ Samsung Galaxy Tab ซึ่งออกแบบมาเป็นพิเศษและเฉพาะสำหรับการเป็นแท็บเล็ตจริงๆ พวกแอพ และประสิทธภาพในการทำงานเป็นแท็บเล็ตจึงเหนือกว่า Microsoft Surface Pro 3 แน่นอนอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามหากทาง Microsoft มีการพัฒนาและอัพเดทแอพใหม่ๆ ออกมารองรับแล้ว Microsoft Surface Pro 3 ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจและน่าจะคุ้มค่า ขณะที่ MacBook ไม่รองรับการทำงานแบบนี้อยู่แล้ว 
Microsoft Surface Pro 3 vs 2014 Apple MacBook Air

พลังประมวลผลการทำงาน

ทั้งสองอุปกรณ์ Surface Pro 3 และ MacBook Air hต่างก็ใช้ชิปประมวลผล Intel Core "Haswell" processors, ทั้งนี้ทาง Microsoft Surface Pro 3 ให้ตัวเลือกลูกค้าต่ำลงไปจนถึงซิป i3. แต่ทาง Apple jพึ่งจะอัพเดท ไปใช้ซีพียูที่สูงกว่าและเร็วกว่ากับอุปกรณ์ของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าความเร็วในการทำงานก็จะเหนือกว่า Microsoft Surface Pro 3 อยู่นิดๆ หน่อยๆ

มองดูที่หน่วยความจำและความจุของข้อมูล ทั้งสองอุปกรณ์ดูจะไม่แตกต่างกันมากนัก โดยมีขนาดตั้งแต่ 8 GB และจุข้อมูลภายใน 512 GB ซึ่งก็ปรับขนาดตามตลาดและกำลังซื้อของแต่ละกลุ่มลูกค้า

The Surface Pro 3 มีขนาดหน้าจอที่เล็กกว่า MacBook Air, bแต่มีความสามารถเป็นหน้าจอแบบสัมผัสได้ และมีความละเอียดของหน้าจอที่สูงกว่า (2160 x1440 กับ 1440 x 900) แน่นอนว่าการรับชมภาพและการท่องอินเตอร์เน็ตของหน้าจอ Microsoft Surface Pro 3 จะทำให้ได้รายละเอียดและความคมชัดมากกว่า เพียงแต่ขนาดหน้าจอเล็กกว่าเท่านั้นเอง

The Surface Pro 3มาพร้อมปากกา สำหรับจดบันทึก ขีดเขียนหรือลงลายเซ็นต์บนหน้าจอ วาดภาพ และอื่นๆ ตามต้องการและจินตนาการของผู้ใช้งาน ขณะที่ MacBook Air ไม่ได้มีความสามารถหน้าจอแบบสัมผัสหรือ a touchscreen, จึงไม่สามารถเปรียบเทียบกับ Surface Pro 3 ได้ในฟีเจอร์นี้

การขยายการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ MacBook Air, tเหนือกว่า Surface Pro 3 โดยจะมีช่องทางในการเชื่อมต่อพอตร์ USB port aมาพร้อมช่องอ่านรับข้อมูลแบบ SD card slot. ถ้าใครสักคนที่ต้องการถ่ายโอนภาพจากกล้องอาจจะผิดหวังเล็กน้อยกับ Microsoft ที่นำ microSD card slot มาใช้งาน เพราะไม่รองรับกับกล้องทุกตัวทุกนามสกุล ซึ่งแน่นอนว่า ช่อง SD card slot จะสะดวกและรองรับการนำเข้าภาพจากกล้องมืออาชีพอย่าง DSLR มากกว่า

The Surface Pro 3 มีประสิทธภาพที่เหนือกว่า MacBook Air เมื่อเชื่อมต่อส่วนขยายหรือ docking station (แยกขายราคา $199.99 ). ซึ่งมีช่องต่อแสดงผลที่ให้ความคมชัดและละเอียดเหนือกว่า MacBook Air นอกจากนั้นยังมีพอร์ต สำหรับต่อใช้งาน เช่น (3 ช่อง USB 3.0, 2 ช่อง USB 2.0, แลน Ethernet, ระบบเสียง audio out).

การพิมพ์งาน แน่นอนว่า MacBook Air ชนะเห็นๆ โดยมาพร้อมแป้นพิมพ์ในตัว ไม่ต้องจ่ายเพิ่มให้เสียเงินอีก เรียกว่าใครที่ใช้งานพิมพ์บ่อยๆ Microsoft Surface Pro 3 ก็ไม่น่าใช่สำหรับคุณ เพราะต้องใช้เวลามากกว่าในการสร้างความคุ้นเคยกับแป้นพิมพ์บนหน้าจอแบบสัมผัส

ข้อแตกต่างอื่นๆ Surface Pro 3 มาพร้อมกล้องหน้า + กล้องหลังความละเอียด 5 MP cขณะที่ MacBook Air มีกล้อง 1 ตัว ,ส่วน Wi-Fi ของ Surface Pro 3 จำกัดอยู่ที่ 802.11n ขณะที่ของ MacBook Air ไปถึง 802.11ac, ซึ่งจะรวดเร็วมากกว่าในการถ่ายโอนข้อมูลและการเล่นเน็ต

การพกพาและอายุการใช้งานของแบต

The Surface Pro 3 จะมีขนาดที่บางกว่า (9.1 mm กับ3 - 17 mm ) และเบากว่า (800 grams กับ 1.35 kilograms)

อายุการใช้งานของแบต Surface Pro 3, นาน 9 ชั่วโมงในการท่องเน็ต ขณะที่ MacBook Air (ประมาณ 12 ชั่วโมงในการใช้งานปกติทั่วๆ ไป และมากกว่า 30 วันในโหมด standby

ระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 vs OS X 10.9 Mavericks (with Windows 8.1)

สองอุปกรณ์นี้ใช้งานโอเอสที่ต่างกัน จึงขึ้นอยู่กับความถนัดและความชอบของแต่ละคนเป็นสำคัญ โดยแก่นแท้แล้วจึงไม่มีความแตกต่างในเรื่องการทำงานและประสิทธิภาพ

ราคา

แน่นอนว่าราคาของ Surface Pro 3 ไม่ได้ขายเบ็ดเสร็จที่ตัวเครื่องเพียงอย่างเดียว แต่ยังแยกขายแป้นพิมพ์หรือคีย์บอร์ดแยก รวมทั้งระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 ราคาอย่างต่ำเริ่มต้นที่ $930 แล้วครับ

ขณะที่คู่แข่งอย่าง MacBook Air ราคาเริ่มต้นที่ $999, แพงกว่า $70 แต่มาพร้อมซีพียูที่เร็วกว่าอย่าง Core i5 processor (เปรียบเทียบกับ Core i3 บน Surface Pro 3) และความจุภายในที่มากกว่าเท่าตัว (128 GB กับ 64 GB บน Surface Pro 3). ลองดูตารางและสเปกเพื่อเปรียบเทียบกัน
สเปกMicrosoft Surface Pro 3 พร้อมแป้นพิมพ์2014 13.3-inch Apple MacBook Airราคาต่างกัน2013 13.3-inch Apple MacBook Pro และ Retina display*
64 GB Core i3 with 4 GB of RAM$928.99---
128 GB Core i5 with 4GB of RAM$1,128.99$999$129.99$1,299
256 GB Core i5 with 8 GB of RAM$1,428.99$1,299$129.99$1,499
256 GB Core i7 with 8 GB of RAM$1,678.99$1,449$229.99$1,599
512 GB Core i7 with 8 GB of RAM$2,078.99$1,749$329.99$1,999

จากตารางด้านบนแสดงข้อมูลเปรียบเทียบหยาบๆ ของ Apple MacBook Pro with Retina display (rMBP) เพื่อให้เห็นว่า Surface Pro 3 แตกต่างจากแล็บท็อปของ Apple อย่างไร ซึ่งแล็บท็อปของ Apple ตัวนี้ จะมีความละเอียดที่เหนือกว่าทั้ง Surface Pro 3 หรือ MacBook Air แม้ในตัวเริ่มต้นก็ตาม

Windows 8 กำหนดปล่อยตัวในปี 2012

ไมโครซอฟท์ยังคงปิดข่าว เกี่ยวกับการปล่อยตัวของ Windows8 ในอนาคต มีเีพียงข้อมูลการผลิตที่รั่วไหลใน MSDN Blog เป็นเวลานานหลังมีการข่าวสารเกี่ยวกับ Windows 8 จะปล่อยตัวออกมาให้ผู้ใช้งานได้ดาวโหลดรุ่นทดสอบหรือรุ่น Beta มาใช้งาน เมื่อเร็ว ๆ นี้ทีมงานของไมโครซอฟท์ประเทศเนเธอร์แลนด์กล่าวในโอกาสครบรอบแรกของ Windows 7, มีการโพสต์ในเว็บไซต์ข่าวอย่างเป็นทางการว่า Windows 8 จะตีตลาดในอีกประมาณ 2 ปีข้างหน้า รวมทั้งได้กล่าวว่า Windows 7 SP1 จะสามารถใช้ได้ในช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า

ออกวางขั้นตอนการ Windows XP, Microsoft กำลังจะเต็มแล้วเสร็จ ในเดือนกรกฎาคม 2010 การสนับสนุนสำหรับ Windows XP Service Pack 2 หยุด วันนี้จะหยุดขาย Microsoft Windows XP ให้กับผู้ผลิตพีซีและยอดขายหลังการขายของ Windows Vista สำหรับ Windows 7, Microsoft Service Pack 1 ชุดโปรแกรมนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบและคาดว่าในช่วงครึ่งแรกของปีถัดไปใช้ได้ อัปเดตครั้งแรกของ Windows 7 เป็นรุ่นใหม่ของ Windows Live Essentials (explore.live.com) กลายเป็นที่มีอยู่ในช่วงกลางเดือนมิถุนายน นอกจากนี้ไมโครซอฟท์เป็นของหลักสูตรรุ่นถัดไปของ Windows แต่จะใช้เวลาประมาณสองปีก่อน"Windows 8'ในตลาด. ข่าวล่าสุดเกี่ยวกับ Windows สามารถใช้ได้ที่ www.windows.nl blog /

ถ้า Windows 8 จะเป็น RTMed ภายในสองปีแล้วมันจะน่าสนใจเพื่อดูว่าเมื่อรุ่นเบต้าออก, บางแห่งอาจจะประมาณเดือนมิถุนายนหรือเดือนกรกฎาคมปีถัดไป ..
สำหรับผู้ใช้งานบ้านเรา ที่ตอนนี้ วินโดว์ 7 ก็อาจจะยังงงๆ ก็คาดว่าเตรียมตัวทดสอบให้ทันกับ OS ใหม่ๆ อย่าง 8 ที่กำลังจะมาเขย่าตลาดผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ ซึ่งต้องคอยดูกระแสตอบรับจากผู้ใช้งานอีกครั้ง สำหรับบ้านเรา ปลายๆ ก็อาจจะมีวางขายใน IT Center แถวๆ เพชรบุรีตัดใหม่แล้วก็เป็นได้ ซึ่งกลุ่มผู้ใช้งานที่หวังว่าโปรแกรม Windows8 จะมีการติดตั้งและใช้งานที่ง่าย รวมทั้งไม่ใช้ทรัพยากรและพื้นที่ใช้งานจำนวนมากอย่างที่ VISTA เคยทำไว้????

วิธีดูวีดีโอแบบ 3D บนช่องยูทูป

เราสามารถรับชม 3D videos ผ่านทางระบบ HTML5 บนยูทูป แหล่งรวมเว็บวีดีโอชื่อดังได้แล้วในวันนี้ โดยคุณสมบัติบัตินี้จำกัดเฉพาะผู้ใช้งานของ Firefox 4, และผู้ใช้งานที่มีการ์ดจอพิเศษของ Nvidia graphics card.
โดย YouTube ปัจจุบันมีไฟล์ " 3D videos จำนวนมากที่มีการเข้ารหัสและเล่นในรูปแบบของ WebM format, ตามที่ผู้บริหารของ Mozilla นาย Chris Blizzard. กล่าวไว้ว่าเฉพาะผู้ที่มี Nvidia 3D Vision graphics การ์ดจอ จะสามารถรับชมวีดีโอนี้ได้ และเปิดด้วยโปรแกรมท่องเน็ตของ Firefox.
ถ้าหากคุณมีการ์ดจอแบบที่กล่าว ให้ค้นหาหรือ search ใน YouTube สำหรับ "yt3d," ซึ่งจะได้ผลการค้นหาไฟล์วีดีโอที่มีการเข้ารหัสแบบ 3 มิติ โดยเราจะต้องตั้งค่า 3D hardware mode.

สำหรับความต้องการของระบบในการรับชมแบบเต็มๆ ประกอบด้วย

• การ์ดจอ NVIDIA GeForce GPU-equipped PC or notebook
• ไดร์ฟเวอร์ของ NVIDIA GeForce driver Release 275 or later
• จอภาพแบบ 3D Vision Ready monitor, notebook, projector, or DLP HDTV
• แว่นรับชมแบบ NVIDIA 3D Vision emitter and glasses when using a PC monitor or notebook display


ตามความต้องการของระบบข้างต้น จะเห็นว่ากลุ่มผ้ชมวีดีโอในรูปแบบ 3 D จะจำกัดเฉพาะบางกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น อย่างไรก็ตามอัตราการเติบโตของตลาดและความต้องการก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ในอนาคตรก็จะมีการผลิตมากขึ้น และราคาของอุปกรณ์ลดลงจนสามารถขยายกลุ่มผู้รับชมมากขึ้นนั้นเอง รวมทั้งการพัฒนาให้สามารถเล่นได้บนเว็บบราวเซอร์อื่นๆ เช่น Chrome, Internet Explorer, Safari, และ Opera
หากเครื่องใครสามารถดูแบบ 3D ได้แล้วละก็ บอกเราบ้างถึงความคิดของคุณ ต่อ 3D HTML5 video on YouTube,