Mobile phone networks in Thailand

How many mobile phone networks available for customer in Thailand?
Well ,there are 3 big name companies on mobile phone network service in Thailand and the name are as follow.
1 AIS
2 DTAC
3 TRUE MOVE
So a tourist who come to visit Thailand and need to buy SIM for mobile phone in Thailand for making a contact with friends or family has to has one as I mention.

I don't give more detail which one is the best or better in factors of service ,price and related etc. Because mostly no significant different among them or I can say they are a stockholder who share the basic core price in services and extra services like mobile internet promotion.

But ,I would assume all you have one of them and looking for such basic information about how to access for services such as to top up the balance,to apply for internet and to check your phone number in the case you forget your own number which seem to be fun like ,but it truly happen with anyone.
Here the table collected common in use to access the mobile network services in Thailand.

Remark: 

Making any transactions on above are a free of charge.
English Language Problem.

When you reach up with the call center number it will be IVR system so listen carefully and press on the number ... for English. or Thai or else you have ask Thai person to assist you.

 Where you can buy a prepaid card/slip for topping up your SIM balance I would recommend to get one from 7-11 store across the country and say almost at the corner of every streets.
How much for a prepaid card/slip?
You can buy initial at 50 baht ,100 baht,300 baht and 500 baht.

Note: 

if you want to apply for internet I would recommend to go to the assist from the clerk at the counter service across the country for better services and internet plan or packages available.
What I want to tell is that if your apple for internet service and forgot to turn off the data or to cancel the service you may lose all of you balance for the internet service ,so be careful with this issue.


Top Up using Code Slip AIS SIM Mobile phone in Thailand

Communicating is very important and matter for everyone come to visit Thailand and one of the most convenient way is by using mobile phone network. In Thailand there are 3 big name companies invest in mobile communication business and you have options to choose.
One of the biggest company which have along history in Thailand mobile service is AIS company which offers both Prepaid and Postpaid mobile network service.
In Most case I do believe Prepaid is the most suit with a tourist who come and plan to stay for a short time in Thailand .Prepaid is the less obligation for customer to buy unlike Postpaid may need more evident to buy new SIM and register.

If you are using Prepaid AIS SIM on your mobile phone I would give some helpful advice about how to refill your credit balance.
How to top up the balance
in fact,there are many simple and convenient ways to do so such as

  1. Top-up spot , 
  2. Top up at AIS Shop/Telewiz Shop, 
  3. Top up via mPayCode Slip 
  4. Top-Up Automatic
  5.  top-up via credit card/bank accountATM ,
  6. Top-UpInternet Banking ,
  7. Top-UpSMS/USSD 
  8. Top-Up IVR 
  9. Top Up using Code Slip


,however for a tourist or a forefinger who just come to visit and stay in Thailand for a short days I would recommend to   Top Up using Code Slip is the most convenient and practical.


Where to buy AIS Code Slip ?
At 7-11 Shop 
Ask the seller for AIS Code Slip in English or in Thai 
To say "AIS Code Slip" in Thai 
Say "But Term Ngin A-I-S"
How much price available.
50 ,100,300,500  baht are available to select.

50 baht = HA-SIB Baht
100 baht = Nuieng Roi baht
200 baht = Song Roi baht

If no one understand English and nobody nearby assist.
Camera phone capture this Thai Word 
"บัตรเติมเงิน AIS"




  

ซ่อนไฟล์ด้วย Wise Folder Hider

ฟรีแวร์ Small Utility สำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ ในการเข้ารหัสผ่านใช้งาน เพื่อซ่อนไฟล์ แฟ้ม โฟลเดอร์ หรือข้อมูล USB Disk เพื่อความเป็นสว่นตัว ปกป้องข้อมูล ที่เป็นชั้นความลับ และไม่ต้องการเปิดเผยให้คนอื่นๆ ทราบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เครื่องที่มีการใช้งานร่วมกันคนอื่นๆ

ลิงค์สำหรับดาวโหลด Wise Folder Hider 

การดาวโหลดและติดตั้ง สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว และไม่มี Adware
คำแนะนำการใช้งาน
หลังจากดาวโหลดและติดตั้งเสร็จ การใช้งานจะเริ่มต้นจากการ กำหนด รหัสผ่านในการใช้งาน

คำแนะนำในการกำหนดรหัสผ่านที่ดี
ควรจะมีทั้งตัวเลข ตัวอักษร และอักษระพิเศษ และมีตัวใหญ่ ผสม ตัวเล็ก
และควรจะมีการจดบันทึก ในสมุด หรือ Note บนโทรศัพท์มือถือ ป้องกันลืม และหายด้วย

หน้าต่างการใช้งาน
จะมีเมนู ในการเพิ่ม ไฟล์ แฟ้ม และ USB Disk ให้คลิก เข้าไปยังแหล่งไฟล์ ที่เราต้องการ ซ่อนไฟล์ และนำเข้ามาในโปรแกรม

หรือจะใช้การแดรก ไฟล์ แฟ้ม ที่ต้องการซ่อน เข้ามายังพื้นที่ว่างๆ ตรงกลางของโปรแกรม ก็ได้เช่นกัน


เท่านี้ ก็เป็นการซ่อนไฟล์ ของเรา ที่คนอื่น มองไม่เห็นได้แล้ว ครับ  ถ้ากรณีที่เราต้องการยกเลิก การซ่อน ให้คลิกที่ Open และ Unhide


การเข้าถึงไฟล์ หรือ โฟลเดอร์ ที่เราซ่อน เวลา ที่เราต้องการใช้งาน เราก็ต้อง ใส่รหัสผ่าน ในการ Log in เพื่อเข้าถึง แฟ้ม หรือ ไฟล์ที่เรานำมาเก็บไว้นั้นเอง


บทสรุป
เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ง่ายต่อการใช้งาน สำหรับการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนตัวของเรา บนคอมพิวเตอร์ สำหรับท่านที่สนใจ และมองหาโปรแกรมช่วยงานในลักษณะดังกล่าว ก็สามารถดาวโหลดมาใช้งานกันได้

หลักการเลือกซื้อการ์ดจอคอมพิวเตอร์โน้ตบุ้ก

ปัจจุบันจะมี 2 ค่าย การ์ดจอเท่านั้น ที่แข่งกันกันในตลาด คือ  ATI กับ  Nvidia, สำหรับชนิดหรือรูปแบบของการ์ดจอ Graphics card สามารถแบ่งออกเป็น 5 ชนิด ตามขีดความสามารถ และคุณลักษณะของแต่ละชนิด คือ 
  1. Integrated Graphics Cards การ์ดจอ on บอร์ด
  2. Low End การ์ดจอระดับล่าง 
  3. Mainstream/Mid-end ระดับกลาง 
  4. Performance ระดับสูง 
  5. High-end/Desktop Replacement ระดับสูงสุด 
โดยจะเรียงลำดับจากต่ำสุดลงมาถึงดีสุด ตามประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งมีใช้งานทั้งของยี่ห้อ  ATI และ  nVidia

 #1: Integrated Graphics Processors ราคาถูกแบบ On board 
  • Intel GMA900 [Graphics Media Accelerator]
  • Intel GMA950
  • ATI Radeon Xpress 200M
การ์ดจอตระกูลและรุ่นนี้ เป็นการ์ดจอที่มาพร้อมกับ Mainboard ของคอมพิวเตอร์ แบบว่าฝังติดกับมาเป็นส่วนหนึ่งของเมนบอร์ด ไม่สามารถถอดหรือแยกออกจากกันได้ เพราะผลิตติดกันมาตั้งแต่โรงงานทีเดียว จัดเป็นการ์ดจอ สำหรับพื้นฐานการใช้งานเบสิกทั่วไป  เช่น ดูหนังฟังเพลง ทำงาน Office เล่นเน็ต เล่นเกมส์เบาๆ ดังนั้นถ้าหากคุณมีแผนที่จะใช้งานโปรแกรมทำงานด้าน 3D เช่น โปรแกรมออกแบบ 3 มิติ เช่น illustrator CS,หรือตัดต่อหนัง ภาพยนตร์ การ์ดจอชนิดนี้ ก็ไม่ใช่ทางเลือกของคุณ  

ในจำนวนรายการที่กล่าวมา  Intel GMA900  จะเป็นการ์ดจอที่พบบ่อยมากๆ ในโน้ตบุ้คระดับล่าง และกำลังถูกแทนที่ด้วยรุ่น Intel GMA950, แต่ก็ไม่แตกต่างกันมากในเรื่องของความเร็วในการทำงาน โดยเฉพาะในเรื่องของงาน 3D โดยเราจะพบ  GMA900/950 เฉพาะในเครื่องที่ใช้งานหน่วยประมวลผลของ Intel processor เท่านั้น

ส่วนอีกตัวที่กำลังมาเรื่อยๆ คือ ATI Radeon Xpress 200M, มาใน 2 แบบหรือ เวอร์ชั่น คือ แบบแชร์แรมจากเครืองคอมพิวเตอร์ shared memory (ไม่มีหน่วยความจำภายในตัวเอง ) และแบบมีหน่วยความจำภายในของตัวเองหรือ dedicated, ทำให้ไม่ต้องไปยืมหน่วยความจำหรือ RAM จากเครื่องหลักมาใช้งาน  โดยที่ ATI X200M ถือเป็นการ์ดจอชนิด On Board ที่ดีสุด ในแง่ของประสิทธิภาพในการทำงาน โดยเร็วกว่า Intel GMA900/950. ซึ่งจะพบในเครื่องของ ซีพียู  AMD-based notebooks, แม้ว่าจะมีการเริ่มทำตลาดกับค่ายอินเทลบ้าง ในการศึกษาเปรียบเทียบ การ์ดจอแบบ  dedicated X200M จะเร็วกว่า 2/3 เท่า กับรุ่นมาตรฐาน การ์ดจอแยก  Radeon X300.  เอาจริงๆ  X200M รองรับงานด้าน 3D ด้วยเช่นกัน แต่ก็อย่าลืมว่า มันเป็นชนิด On board ถ้าจะเล่นเกมส์ 3D จริงๆ แล้ว ก็ยังไม่ผ่าน 
ข้อดีสุดของการ์ดจอแบบ On Board คือ 
  1. ประหยัดพลังงาน ไม่เปลืองแบต .
  2. มีราคาถูกเมื่อเทียบกับการ์ดจอชนิดแยก 
สรุปว่า ไม่เหมาะกับงาน 3D ทุกชนิด แม้ว่า X200M จะพอรองรับการทำงาน 3 D บ้าง แต่ก็ แบบเบาๆ นะครับ ไม่เต็มประสิทธิภาพ อย่างที่คิด

#2: Low-end Graphics Cards การ์ดจอราคาถูก ระดับล่าง 

ATI X300 = nVidia 6200
ATI X1300 = nVidia 7300 


ตระกูลนี้ เหมาะสำหรับงานด้านความบันเทิง และรองรับงาน 3D แบบเบสิก เบาๆ แต่อย่าคาดหวังการเล่นเกมส์ 3D หนักๆ หรืองานออกแบบกราฟฟิค ที่คมชัดสูงและประมวลผล 3D 
สำหรับปัจจุบัน รุ่นใหม่คือ  X1300/Go7300, กำลังเข้ามาแทนที่ของเดิมอย่าง X300/6200.

 #3: Mainstream/Mid-end Graphics Cards การ์ดจอระดับกลาง 

ATI X600 = nVidia 6400
ATI X1400 = nVidia 7400


ขยับมาอีกระดับที่แบ่งชัดเจนระหว่างระดับล่างกับ ระดับกลาง ซึ่งดีเพียงพอในการเกมส์ 3D ใหม่ๆ ในปัจจุบันได้ แต่ก็อย่าคาดหวังประสิทธิภาพสูงสุดแบบระดับ High end เอาตรงๆ ถ้ายังต้องการเล่นเกมส์ 3D จริงๆ จังๆ การ์ดจอระดับนี้ ก็ยังไม่ใช่คำตอบของคุณ


การ์ดจอระดับกลางจะไม่ค่อยร้อนมากนักขณะทำงาน ดังนั้นจึงสามารถพบได้ในโน้ตบุ้ก ขนาดเล็ก กว้าง 13.3-14″ (เช่น Sony VAIO SZและ  ThinkPad T60). อย่างไรก็ตามปกติจะพบในเครื่องขนาดใหญ่มากกว่า เช่นหน้าจอขนาด  15.4″ นิ้ว เป็นต้น

โดยรุ่น  X1400/Go7400 กำลังจะแทนที่รุ่นเดิมอย่าง  X600/6400.

 #4: Performance Graphics Cards ระดับสูง 

ATI X700 = nVidia 6600
ATI X1600 = nVidia 7600


รองรับงานและเกมส์ 3D บนโน้ตบุ้ก โดยไม่จำเป็นต้องใช้ PC ขนาดใหญ่ ไม่ค่อยจะร้อนมากนักในการทำงาน แต่ก็จะเปลืองไฟ และกินแบตพอสมควร เมื่อเทียบกับเครื่องโน้ตบุ้กแบบ On Board  
ในเรื่องการทำงาน ตอบโจทย์สำหรับคอเกมส์3 D ใหม่ๆ ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะท่านที่ต้องการเครื่องแบบสะดวกและพกพาไปไหนมาไหนได้โดยสะดวก โดยปกติจะพบกับเครื่องหน้าจอขนาด กว้าง 15-15.4″ นิ้ว

โดยรุ่นใหม่ๆ อย่าง  GeForce Go7600 กำลังเข้าแทนที่ของเดิมอย่าง Go6600, และของค่าย ATI ก็จะเป็นในรุ่น X1600 เข้าแทนที่รุ่นเก่าอย่าง  X700.

 #5: High-end/Desktop Replacement Graphics Cards ระดับสูงสุด 

ATI X800 = nVidia 6800
ATI X800XT = nVidia 6800 Ultra
? = nVidia 7800
ATI X1800PRO = nVidia 7800GTX


ไม่เจอในเครื่อง notebooks ทั่วไปนะครับ รองรับการเล่นเกมส์ 3D แบบเต็มประสิทธิภาพสูงสุด แต่ก็จะมาพร้อมราคาที่จ่ายแพงมากเป็นเงาตามตัวเช่นกัน การทำงานก็จะร้อนสูง เปลือนไฟ กินแบต จึงต้องการตัวช่วยหล่อเย็น พวกพัดลมขนาดใหญ่ ทำให้มีขนาดหนัก และใหญ่ พบได้ในเครื่องหน้าจอกว้าง 17″ นิ้ว 
บทสรุป 
ข้อมูลเหล่านี้ คงจะเป็นประโยชน์ในเชิงวิชาการ และการพิจารณาประกอบการตัดสินใจ เลือกซื้อ โน้ตบุ้ก ใช้งาน ให้เหมาะกับวัตถุประสงค์และความต้องการส่วนตัวของคุณมากที่สุด โดยมีปัจจัยในเรื่องของงบประมาณ มาประกอบในการพิจารณา คงบอกไม่ได้ว่า แบบไหนจะสะดวกและเหมาะสมกับคุณมากที่สุด ขึ้นอยู่กับผู้อ่านจะเข้าใจ และตกลงใจ หรืออ้างอิง หรือ แนะนำความรู้ให้กับเพื่อนๆ ที่กำลังลังเล หรือไม่แน่ใจในสเปกหรือรูปแบบของการ์ดจอโน้ตบุ้ก ที่คุณกำลังตกลงใจซื้อหามาใช้งาน ครับ

การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตาราง Ms Access

การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตารางข้อมูล Table Relationship เพื่อนำเอาข้อมูลที่เราแยกออกไปจัดเก็บอีกตารางหนึ่ง มาแสดง และ สอดคล้องกับการออกแบบสอบถามข้อมูลหรือ Queries
ในโปรแกรมฐานข้อมูล Access สามารถสร้างความสัมพันธ์ของตารางได้ 3 แบบ คือ
One to One
One to Many หมายถึงมีการลิงค์ จาก เรคคอดของตารางหนึ่ง ไปยังอีก หลายเรคคอด ของอีกหนึ่งตาราง เช่น ตารางรายชื่อลูกค้าคนหนึ่ง โยงไปตาราง หมายเลขโทรศัพท์ลูกค้า ซึ่งมีหลายระบบ เช่น ระบบบ้าน สำนักงาน หรือ มือถือ เป็นต้น


Many to Many หมายถึงมีการลิงค์ จาก เรคคอดของตารางหนึ่ง ไปยังอีก หลายเรคคอด ของอีกหนึ่ง และ กลับกัน จะเห็นได้บ่อยๆ ในตารางข้อมูล สำหรับการติดตาม ใบสั่งสินค้า

ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของข้อมูลที่เราต้องการนำมาแสดง

ในมุมมองการออกแบบความสัมพันธ์ระหว่างตาราง มี ข้อมูลที่เราควรทราบ 3 ประการ สำคัญ ได้แก่

การสร้างความสัมพันธ์โดยใช้ Lookup Wizard

เป็นวิธีที่ง่ายสุดง่ายสุด ในการสร้างความสัมพันธ์แบบ One to Many
โดยจะทำงานให้ 2 อย่างคือ
สร้างความสัมพันธ์ และแสดง เรคคอดจากตารางให้เราเลือก สร้างได้ทันที

จากบนก่อนหน้านี้ เราได้สร้างฐานข้อมูลขึ้นมา ประกอบด้วยตาราง 2 ตาราง คือ
Customer
Phone Number


ในตารางชื่อ Phone Number ให้คลิกเพื่อเพิ่ม การค้นหาและความสัมพันธ์ จะเข้าสู่หน้าต่างการทำงานต่อไป ดังนี้
แล้วก็ 
ต่อไป
ต่อไป

หลังจากนั้น คลิก เสร็จสิ้น การสำรวจ ความสัมพันธ์ บนเมนูแบบริบบอน ให้คลิก เครื่องมือ ฐานข้อมูล เพื่อเข้าไปกำหนดค่า แก้ไขความสัมพันธ์ เพิ่มเติม ตามภาพประกอบ

สำหรับเนื้อหาต่อไป จะได้แนะนำการประยุกต์ใช้งาน ความสัมพันธ์ระหว่างตาราง ที่ชัดเจน และมากขึ้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น และสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้จริงต่อไป

การสร้างความสัมพันธ์จากแถบเมนู ริบบอน ด้านบน



คลิกเมนู เครื่องมอฐานข้อมูล และ คลิก ความสัมพันธ์
จากนั้น ให้เรานำเม้าส์ ไปคลิกที่ชื่อของตาราง Customer กับ Phone Number และลากเข้ามาวางในพื้นที่ว่างของโปรแกรม หรือ Windows Pane
ให้นำเม้าส์ ไปคลิก Customer id และลากเข้ามาวางลงในช่องของ Phone Number ตามภาพ
จากนั้นให้คลิกเลือก ตัวเลือกการสร้างความสัมพันธ์ตามภาพ ทั้ง 3 ติ้ก เลย และคลิกปุ่ม สร้าง
ก็จะได้ความสัมพันธ์ระหว่างตาราง เช่นเดียวกัน ครับ



ข้อพิจารณาการเลือกใช้บริการ 3G Internet Sim

อัตราค่าบริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ต 3G ในประเทศไทย แบบรายเดือน Prepaid หรือ เติมเงิน
เพื่อให้ข้อมูลเชิงเปรียบเทียบ แบบตารางข้อมูล กับผู้สนใจใช้บริการทั่วไป ทั้งไทยและต่างชาติ 

ข้อมูลด้านล่างนี้ ผมศึกษาและรวบรวมมาจากเว็บไซต์ของผู้ให้บริการแต่ละราย นำมาแสดงในตารางเชิงเปรียบเทียบ ประกอบการพิจารณา เน้นว่าเป็นรายละเอียดขั้นต้นเท่านั้น สนใจจะใช้บริการจริงๆ ให้สอบถามจากตัวแทนหรือเจ้าที่เครือข่ายของแต่ละค่าย อีกทีหนึ่ง โดยเป็น Package ราคาเริ่มต้นของแต่ละค่ายนะครับ เน้นเริ่มต้น สำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดงบประมาณ และพิจารณาความจำเป็นในการใช้งานจริงๆ ส่วนคนที่งบประมาณไม่ใช่ปัญหา แบบว่าจะเดือนละ 700 -900 หรือ มากกว่า ก็ไม่ใช่ประเด็นหรือปัญหา ก็ข้ามไปได้เลย

สำหรับข้อมูลที่นำมาแสดงนี้ เป็นรายละเอียดของ Internet SIM ของแต่ละค่ายนะครับ ที่เน้นการใช้งานอินเตอร์เน็ตเป็นหลัก ไม่เน้นการโทรหรือสนทนา ผ่านเครือข่าย 3G และ 4G ที่มีให้บริการในประเทศไทย โดยการใช้งาน ก็จะต้องซื้อ SIM เปิดเบอร์ใหม่ ของแต่ละค่าย จากนั้นก็เติมเงินเข้าไปก่อน และสมัครใช้บริการ ตามขั้นตอนและคำแนะนำของแต่ละค่าย




ลำดับ
ผู้ให้บริการ
Data Plan
ค่าบริการรายเดือน
เงื่อนไขการให้บริการ
websites
1
CAT MY NET
1GB
199 บาท
ใช้บริการความเร็ว 3G สูงสุด เมื่อครบดาต้า 1 GB แล้ว ปรับลดความเร็วเหลือ 384kbps
http://www.mybycat.com/
2
AIS 3G NETSIM
1GB
249
ใช้ความเร็วสูงสุด 1.5GB
ฟรีเน็ต 1 GB รวม 2.5 GB เมื่อครบแล้ว  ปรับลดความเร็วเหลือ 64kbps และ AIS WiFi ไม่จำกัด
http://www.ais.co.th/3g-one-2-call/en/promotion-detail.aspx?type=net&id=37
3
TRUE MOVE
500 MB
199
ใช้บริการความเร็ว 3G สูงสุด เมื่อครบดาต้า 1 GB แล้ว ปรับลดความเร็วเหลือ 128kbps
http://truemoveh.truecorp.co.th/4g/sim-truemoveh/prepaid/entry/3340
4
DTAC
750 MB
299
ใช้บริการความเร็ว 3G สูงสุด 42MB/s  เมื่อครบดาต้า 750 MB  แล้ว ปรับลดความเร็วเหลือ 128kbps
http://www.dtac.co.th/prepaid/products/happy-unlimited-internet-package.html


ตารางข้อมูลให้ดูที่ ช่องของ DATA และค่าบริการ


คำแนะนำในการเลือกใช้งาน มีข้อสังเกตที่น่าสนใจคือ ในราคาที่แตกต่างกันไม่มาก รวมทั้งขนาดของ Data หรือ จำนวนของข้อมูลในการใช้งาน ก็ไม่ต่างกันมากเช่นกัน แต่สิ่งที่ทุกค่ายมีเหมือนกันคือ หลังจากที่เราเล่นเน็ตเต็ม Speed หรือความเร็วสูงสุดของแต่ละค่ายจนครบตามจำนวนของ Data ที่กำหนดให้แล้ว ทุกค่ายก็จะมีนโยบายเดียวกันคือ ปรับลดความเร็ว หรือ Speed ในการใช้งานลงตามอัตราความเร็วที่กำหนด

ซึ่งดูแล้ว Data ที่กำหนดให้จำนวน 1GB เนี่ย ไม่ได้มากมายอะไรครับ ถ้าเราดาวโหลดหนังหรือเพลง หรือคลิปวีดีโอจากอินเตอร์เน็ต ที่มีปริมาณข้อมูลมากๆ หน่อย ไม่เกิน 3-5 วัน ก็หมดแล้วครับ ยกเว้นถ้าจะไม่โหลดอะไรมาก ใช้ประมาณ ค้นหาข้อมูล Google อ่านอีเมล ติดตามข่าวสาร บ้านเมืองทั่วไป ก็อาจจะอยู่ได้ นานหน่อย เป็นสัปดาห์หรือ หลายสัปดาห์ ก็ว่าไป

ในมุมมองส่วนตัวผมมองว่าเป็นกลยุทธและนโยบายทางการตลาดที่แยบยลและดูว่าจะเป็นกับดักให้มือใหม่ หรือผู้ที่ไม่เข้าใจกติกาหรือกฎที่บรรดาค่ายมือถือต่างๆ เหล่านี้เขียนกันออกมามากนัก ผมเองเคยได้ยินบ่อยๆ ว่า ตอนแรก ซื้อเครื่องมาใหม่ๆ ได้โปรเน็ต 3G,4G แถมมา โครตแรงเลย เปิดปูดป้าย โหลดเร็วทันใจ แต่ใช้ไปใช้มา ช้าเหมือนเต่าเลย ไม่เหมือนเดิม ซะงั้นคิดว่า เครื่องมีปัญหา หรือ การ์ดเต็มไปอีก ก็มี


เอาจริงๆ จะมีผู้ใช้งานสักกี่คน ที่จะตั้งใจหรือควบคุมปริมาณการใช้งานของตนเองว่า จะใช้งานอินเตอร์เน็ต วันนี้ เดือนนี้ จำนวน เท่ากับ ...MB หรือ รวมแล้ว ไม่เกิน 1 GB ในเดือนนี้ บ้าไปแล้ว ผมคนหนึ่งละที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ ดูมันจำกัด เกินไป และเชื่อว่าทุกคนก็ต้องการเร็ว แรง และ Unlimited ด้วยกันทั้งนั้นครับ

แต่เอางัยละ ในเมื่อของจริงมันไม่ใช่แบบนั้น เพราะเท่าที่ผมดูมา ราคาเกิน 1200 บาท ต่อเดือน Data ที่ให้ใช้งานได้ก็จำกัดที่ 5GB เท่านั้น ถ้า ภายใน 1 เดือน ใช้เกิน 5GB ก็กติกาเดิม คือลดความเร็วการใช้งานลง เช่นกัน

ด้วยเหตุผลดังกล่าวที่ยกมาประกอบ ในส่วนตัวของผม ค่ายที่ลดความเร็วหลังใช้งาน Data Plan ของเขาหมดแล้วก็คือ My Net ของ CAT ที่อัตราความเร็ว 384 Mbps ซึ่งส่วนตัวผมมองว่าเร็วเพียงพอในการใช้งานอินเตอร์เน็ตทั่วไป และการสื่อสารผ่าน Social Media เช่น Line ,Facebook เป็นต้น ง่ายๆ ก็เร็วกว่าค่ายอื่นๆ ในตารางนะครับ




ส่วนค่ายอื่นๆ ผมมองว่าโหดกับลูกค้าไปนิดหนึ่ง โดยเฉพาะที่ปัจจุบันเขาใช้งาน High Speed Internet กันเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมดแล้ว แบบว่าลดเหลือ ไม่ถึง 100 Kb ต่อ วินาที ไม่รู้เอาตรรกะไหนคิด ผมว่า เอาเปรียบลูกค้าไปหน่อย เต่าจะเรียกพี่เลยนะนั้น ขึ้เหนียวไปหน่อยนะครับ อิอิ

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของค่าย AIS มี Option ให้ผู้ใช้งาน ใช้งาน AIS Free WI-FI ได้ ไม่จำกัด แต่ก็นั้นแหละ โอกาสที่คุณจะอยู่ในเขตพื้นที่หรือรัศมีของบริการ WI-FI ของเขา ก็ใช่ว่าจะคลอบคลุมทุกจุด ฟังดูดี แต่เอาจริงๆ ก็ ไม่ได้ผลทางปฏิบัติ

สรุปว่า

อ่านจบแล้ว อาจจะมีประโยชน์บ้างสำหรับผู้ใช้งาน ที่ต้องการ Internet Sim มาใช้งานกับมือถือ หรืออุปกรณ์พกพาของคุณ ได้เป็นข้อมูลพื้นฐาน ในการพิจารณาและประกอบการตัดสินใจของคุณอีกต่อไปครับ




แนะนำอินเตอร์เน็ต 3G ราคาประหยัด My 3G by CAT

รีวิว แนะนำอินเตอร์เน็ตความเร็วพอใช้ได้ ราคาประหยัด จาก Cat
อีกตัวเลือกหนึ่ง ที่อยากแนะนำ เพราะเห็นว่า มีข้อดีหลายประการ ที่อยากจะแชร์นะครับ  เป็นเน็ตแบบเต็มเงิน รายเดือน ของ CAT ที่พึ่งประชาสัมพันธ์ และทำการตลาดมาไม่นานนัก เดิมเข้าใจว่า ทำตลาด อินเตอร์เน็ตสายตามบ้าน หรือองค์กร มากกว่า ก็ลองดูว่า มีอะไรน่าสนใจบ้างครับ  สำหรับ โปรที่นำมาแนะนำ ผมเน้นว่า เป็นราคาประหยัด ที่จะทำให้คุณสามารถใช้งานเน็ต ความเร็ว 384 kb. ต่อ วินาที นาน 30 วัน ในราคา 99 บาท เท่านั้น  สำหรับประสิทธิภาพ ในเรื่อง การเชื่อมต่อ และความพึงพอใจในการใช้งาน สว่นตัวที่ผมเคยใช้งานมา พบว่า การเชื่อมต่อโดยมือถือ ซัมซุุง กาแลกซี่ วิน รุ่น 2 ซิม ของ ผม ใส่ SIM ช่องที่ 2 และตั้งค่า SIM ให้เปิดใช้งาน Data เพื่อใช้งานเน็ตของ CAT แล้ว พบว่า สามารถใช้งานได้ โดยขึ้น H บนหน้าจอ  แปลว่า High Speed internet หรือเปล่า แน่ๆ คือ ไม่ขึ้น E หรือ Edge  ความเร็วในการ Browse หรือ ท่องอินเตอร์เน็ต ทั่วไป สามารถเปิดอ่านหน้าเพจต่างๆ ภาพ และข้อความ ได้ เร็วในระดับพอใช้ ไม่ช้ามากนัก 
ด้าน การสื่อสาร สามารถ ใช้งานแอพสื่อสาร เช่น Line ,Facebook ได้อย่างไม่มีปัญหา โดยเน้นการสนทนาแบบ พิมพ์ข้อความ ส่วน การโทรฟรี พบว่า มีปัญหาเรื่อง สัญญาณบ้าง ในบางครั้ง จริงๆ คือ พอใช้ได้ ครับ 



บทสรุป ในราคา 99 บาท ต่อเดือน ส่วนตัวผมเห็นว่า ราคานี้ ไม่รู้ว่าจะหาได้ถูกและคุณภาพ ยอมรับได้ขนาดนี้จากที่ไหน เคยใช้บริการชั่วคราว จาก SIM AIS หลัก ที่เคยเปิดใช้งานรายวัน 15 บาท ต่อวัน พบว่า ขึ้น Edge ซึ่งช้ามากๆ ไม่คุ้มค่า และเคยมีปัญหา เปิดใช้งานแล้ว ลืมปิด โดนดูดเงินในบัญชีหมดเลย นับว่า เสี่ยงพอควร สำหรับคนที่ไม่ทราบ หรือ ไม่รอบคอบพอ ในการ on/off การเปิดใช้บริการชั่วคราว บริการเสริมเหล่านี้ 

ส่วน SIM MY NET ถ้าไม่เติมเงินเข้าระบบ ก็สมัครต่ออายุหรือ บริการไม่ได้ และไม่เกี่ยวข้องว่า จะเปิดหรือปิด Data ครับ ให้ความเร็วสูงสุด ตามที่บอกคือ 384KB เล่นไม่จำกัดจริงๆ ตามความเร็วที่กำหนด 

อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเครือข่าย 3G ราคาเริ่มต้นที่ 199 บาท ครับ แต่ช้าก่อน อย่าพึ่งตกลงใจ

แต่จริงๆ คือ เขาจำกัด Data ในการใช้งานที่ 1GB ครับ เข้าใจคำว่าจำกัดดาด้าในการใช้งานกันแค่ไหนครับ แบบว่า เข้าไปโหลดหน้าเพจ ดูหลัง ดูยูทูป ดูดนตรี เพลง ที่มี Content หรือเนื้อหา เกิน 1 GB โปรแกรม ก็จะนับ และตัดความเร็วของคุณ ให้เหลือ ที่ 384 KB เหมือนเดิม  (จริงๆ ผมว่า ชั่วโมงเดียวถ้าเข้ายูทูป ดูวีดีโอ และ เพลงก็หมดแล้ว แต่ถ้าเปิดหน้าเพจ ดูข่าวสารอย่างเดียว อาจจะทั้งเดือน)  ในราคาที่จ่ายมากกว่ากัน 100 บาทครับ ตัวนี้ เป็นของค่าย CAT 3G นะครับ 199 บาท /เดือน ส่วนค่ายอื่นๆ ราคา 3G เริ่มต้น น่าจะสูงกว่านี้นะครับ 


สังคมไทยเราในปัจจุบัน

เป็นสังคมการสื่อสาร ที่อินเตอร์เน็ต กลายเป็นปัจจัยจำเป็นสำหรับทุกคน มีตัวเลือกและทางเลือก ให้ใช้งานกันมากมาย ดีจริง ถูกแพง ประทับใจ อยากเปลี่ยนแปลง หรือง่ายๆ จ่ายถูกลง ในราคาที่คุณพอใจ กับคุณภาพและบริการที่พอยอมรับได้ ผมจึงแนะนำอีกทางเลือก คือ บริการเน็ตไร้สาย จากเครือข่าย My Net By CAT (ผมไม่ได้ค่าประชาสัมพันธ์นะครับ อิอิ)

ซึ่งมี 2 แบบ ให้เลือกคือ 

เริ่มต้นที่ 99 บาท/เดือน ความเร็ว 384 Kb ไม่จำกัดดาต้า
215 บาท/เดือน อัตราความเร็วเพิ่มมาที่ 512 KB ไม่จำกัดดาต้า

แบบ 3G

199 บาท/เดือน จำกัดดาต้า ที่ 1 GB หลังจากนั้น ลดความเร็วเหลือ 384KB
299 บาท/เดือน จำกัดดาต้า ที่ 2 GB หลังจากนั้น ลดความเร็วเหลือ 384KB

สนใจใช้บริการหรือสมัครใช้งาน ติดต่อศูนย์บริการ CAT ในพื้นที่ของคุณ และดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ CAT นะครับ http://www.mybycat.com/products.php?id=100&sid=144

สรุปแบบฟันธง เอาจริงๆ คือ ผมไม่เคยใช้บริการ รายเดือนแบบ 3G ของ AIS ,DTAC หรือ TRUE มาก่อน ด้วยคิดว่า ตัวเอง ไม่จำเป็น ต้องจ่ายขนาดนั้น ที่บ้านก็มี WIFI อยู่แล้ว และที่ทำงานก็สามารถใช้งาน WIFI ได้อีกเช่นเดียวกัน จึงคิดว่า การ Always On โดย อินเตอร์เน็ตเครือข่าย 3G,4G ของค่ายต่างๆ ในสนนราคา 300 -500 บาทต่อเดือน เป็นสิ่งไม่จำเป็นและไม่คุ้มค่า

การใช้งานส่วนใหญ่ของผม ก็ค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต Google ทั่วไป สำหรับการรับชมวีดีโอจากยูทูปบ้าง พวก เพลง หรือคลิปวีดีโอที่น่าสนใจทั่วไป การใช้งานบริการนำทาง Google Map และการสื่อสารผ่านแอพ Line ,Facebook

ดังนั้นทางเลือก ในส่วนตัวที่เหมาะสม สำหรับ Case ของผม คือ เอาประหยัด และพอใช้ได้ ในราคา 99 บาท หรือ 215 บาท ต่อเดือน เป็นตัวเลือก ที่น่าสนใจจริงๆ ครับ

ระบบนี้ อาจจะเหมาะสำหรับท่านที่มีมือถือแบบ 2 Sim เนื่องจากเบอร์เดิม ค่ายเดิม ใช้งานมานานแล้ว ถ้าจะเปลี่ยน SIM หรือ ซื้อมือถือใหม่เพิ่ม ก็ดูว่า จำเป็น และน่าลงทุนแค่ไหน
การเติมเงิน สามารถซื้อบัตรเติมเงินได้ที่ 7-11 ,Big C,Lotus เป็นต้น



ข้อมูลเพิ่มเติม สำหรับผู้สนใจจริงๆ ครับ ผม Copy มาจากเว็บของ Cat ละครับ ให้ศึกษา เพิ่มเติม


    • แพ็กเกจเน็ตสุดคุ้ม 55 จะต้องมีเงินคงเหลือมากกว่าหรือเท่ากับ 58.85 บาท
    • แพ็กเกจเน็ตสุดคุ้ม 99 สมัครแบบตัดเงินเป็นรายครั้งจะต้องมีเงินคงเหลือมากกว่าหรือเท่ากับครั้งละ 105.93 บาท, สมัครแบบตัดเงินต่อเนื่องอัตโนมัติ 6 รอบการใช้งานจะต้องมีเงินคงเหลือมากกว่าหรือเท่ากับรอบละ 105.93 บาท, สมัครแบบตัดเงินครั้งแรก ครั้งเดียว ใช้ได้นาน 6 รอบการใช้งาน จะต้องมีเงินคงเหลือมากกว่าหรือเท่ากับครั้งละ 635.58 บาท
    • แพ็กเกจ 215 : 512 จะต้องมีเงินคงเหลือมากกว่าหรือเท่ากับ 230.05 บาท
  • ความเร็วในการใช้งานอินเทอร์เน็ต ขึ้นอยู่กับช่วงระยะเวลาของการใช้งาน ความหนาแน่นของผู้ใช้บริการ รวมถึงคุณภาพในการรับ-ส่งสัญญาณของอุปกรณ์ของผู้ใช้บริการ
  • อัตราค่าบริการดังกล่าวข้างต้น เฉพาะการใช้งานภายในประเทศเท่านั้น ไม่รวมค่าบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ, ค่าโทรเลขหมายพิเศษ, ค่าบริการเสริม และค่าธรรมเนียมอื่นๆ