วิธีการแจ้งเตือนทางอีเมล์ด้วย Appsheet

 สวัสดีครับ สำหรับวันนี้เราจะมาทดสอบวิธีการแจ้งเตือนผู้ใช้งาน โดยวิธีการส่งอีเมล์เข้าไปยังกล่องจดหมายของเรากันโดยอัตโนมัติ 

ก่อนอื่นให้เราไปที่กูเกิลไดร์ฟ ของเรา สร้างโพลเดอร์ขึ้นมา สมมุตเป็น Leave Approve 

จากนั้น คลิกเข้าไปข้างในโฟลเดอร์ที่พึ่งสร้างขึ้นมา

จากนั้นคลิก new สร้างไฟล์ตาราง Google sheet ขึ้นมา

ประกอบด้วย คอลัมน์ ID ,ผู้ลา ,วันที่ลา ,ลาถึงวันที่ ,เรื่อง , เหตุผลการลา ,การอนุมัติ ,วันที่อนุมัติ



-------------------

มาที่ Appsheet บ้าง

สร้างแอพใหม่ขึ้นมา ตั้งชื่อแอพเป็น leave approve V1 

สร้างจาก Database ที่มีอยู่แล้ว ไปลิงค์เอาตาราง ที่เราสร้างไว้บนไดร์ฟเข้ามา 

ไปที่แท็บตาราง data กำหนดชนิดของข้อมูล 

ชนิดของข้อมูล วันที่ลา ,ลาถึงวันที่ และวันที่อนุมัติ เป็น Date

ที่เหลือเป็น text

เว้น การอนุมัติ เป็น Enum ใส่ตัวเลือกเป็น อนุมัติ ไม่อนุมัติ  รอตรวจสอบ 


------------------------------------



ขั้นการใช้งาน bot เพื่อสร้างคำสั่งส่งอีเมล์ไปให้ผู้ลงนามอนุมัติ โดยอัตโนมัติ

คลิกที่ new bot ตั้งชื่อเป็น when recode create  send email

เพิ่มขั้นตอนหรือ step เป็น send email 

กำหนดค่า setting ดังนี้

send an email

email type :embedded app view

to : Useremail()

app view: กำหนดเป็น Form view 

-----------------------------

คลิก save ลองดูแล้วเราก็จะได้ ผลการทำงานที่ต้องการ โดยลองบันทึกข้อมูลในแอพ แล้ว save

จากนั้น ไปที่ email ของเรา เปิดเมลดู จะพบข้อมูล



แนะนำการเลือกซื้อโน้ตบุ้ก 2024

 ปัจจุบันราคาโน้ตบุ้กดีๆ มีราคาที่เรียกว่าจับต้องกันได้มากขึ้น มีหลายแบนรด์ หลายรุ่นและหลายสเปก ตั้งแต่ผู้ใช้งานทั่วไป นักเรียน นักศึกษา จนถึงมืออาชีพที่ใช้งานตัดต่อ หรือเล่นเกมส์ 

ในวันนี้ ผมจะขอแนะนำ Note book สำหรับใช้งานทั่วไปในราคาไม่เกิน 35,000 บาทกัน นั้นก็คือ 

Dell Latitude 3340
8 GB | 256 GB | Intel® Core™ i5-1335U | Intel® Iris® Xe Graphics

หน่วยความจำที่ 8 GB 
พื้นที่เก็บข้อมูล Hard Drive เป็นแบบ SSD : ความจุมากถึง 256 GB 
หน่วยประมวลผล : Intel Core i5 
การ์ดจอ : Xe Graphic 

ราคาประมาณ :$879
คิดเป็นเงินไทยประมาณ 31,644 บาท



โดยที่ข้อดีของ Dell รุ่นนี้คือ เราจะได้โปรแกรม Windows 11 ไลเซ้นต์ มาพร้อมเครื่อง ซึ่งจะเป็นระบบ OS ล่าสุดจากค่ายไมโครซอร์ฟนั้นเอง 

ข้อดีคือเราไม่จำเป็นต้องมองหาโปรแกรมป้องกันไวรัส เพราะในวินโดว์ 11 จะมาพร้อมโปรแกรมรักษาความปลอดภัยอย่าง Defender ในตัวอยู่แล้ว 

แต่เราอาจจะต้องจ่ายเพิ่มในส่วนของโปรแกรมสำนักงาน Ms Office จะเป็นรายเดือน หรือรายปี หรือจะซื้อขาด ก็แล้วแต่งบประมาณ และความสะดวกของแต่ละคน 
สำหรับสเปคนี้ เป็นเกรดระดับกลางค่อนไปทางสูง  รองรับการใช้งานด้านธุรกิจ หรือคนทำงานทั่วไป ที่ต้องการประสิทธิภาพ และความมั่นใจในการใช้งาน และการรักษาความปลอดภัย สบายใจหายกังวล ทั้งเรื่องของ เครื่องค้าง หรือถูกรบกวนโดยมัลแวร์ ต่างๆ 

กล้องมีคุณภาพรองรับการใช้งาน วีดีโอคอล งานประชุมสัมมนา ที่สะดวก คมชัด พร้อมระบบเสียงที่ชาญฉลาด ตัดเสียงรบกวนอัตโนมัติ

มาพร้อมกล้องระบบ อินฟาเรดในตัว FHD-IR camera ที่จะช่วยให้สแกนใบหน้าผู้ใช้งาน ในการเข้าใช้งานเครื่องได้ด้วย 



เขียนอิมเมจไฟล์ด้วย PowerISO

 แนะนำโปรแกรม PowerISO เป็นแชร์แวร์สำหรับการเขียนแผ่น CD/DVD และแผ่นข้อมูลชนิด Blu-ray Disk ที่มีประสิทธิภาพ และง่ายต่อการติดตั้งใช้งาน 

สำหรับ User ที่สนใจและมองหาโปรแกรมในการทำงานดังกล่าว สามารถโหลดมาติดตั้งและทดสอบการใช้งานได้ก่อนเป็นเวลา 14 วัน 

จะงานชั่วคราว หรืองานถาวร แอดเชื่อว่า PowerISO จะตอบโจทย์ของผู้ใช้งานที่กำลังมองหาโปรแกรมแนวนี้อยู่แน่ๆ 

รองรับ Windows 10,11

จุดเด่น : การเขียน Image ไฟล์ที่ต้องใช้งาน เช่น Windows OS เป็นต้น 

ขั้นตอนการใช้งาน 

เปิดโปรแกรม 

คลิกปุ่ม Add เข้าไปเลือกไฟล์ที่ต้องการเขียน 

คลิก     Menu>Action > New Folder เพื่อสร้างโฟลเดอร์ 

คลิก     Menu>Action > Change Label เปลี่ยนป้ายกำกับ

คลิก     Menu>File > Properties คุณสมบัติของไฟล์

กำหนดค่าต่างๆ ครบแล้วคลิกปุ่ม  Save 



How to run PowerISO

  • Run PowerISO.

  • Click the "Add" button on toolbar to add files and folders. You can also directly drag files and folders from Windows Explorer to PowerISO window. 

Another method to add files is using the system clipboard. You can select files and folders in Windows Explorer, hit "CTRL-C" to copy them to clipboard, then go to PowerISO window, and hit "CTRL-V" to paste selected files and folders to current compilation. 

  • Choose the menu "Action > New Folder" to create a new folder.

  • Choose the menu "Action > Change Label" to change the default label.

  • Choose the menu "File > Properties" to set the iso file properties.

  • After you have added all files and folders and made all necessary changes, click the "Save" button on toolbar, or choose the "File > Save" menu to save the iso file.

 ดาวโหลด PowerISO

รีวิวการสร้างแอพขายกาแฟ Coffee Pos 2023 V1

 บทความนี้เราจะมาฝึกสร้างแอพขายกาแฟด้วยตัวเอง โดยใช้ฐานข้อมูล Google Drive กับ Appsheet กัน 

ขั้นตอนแรกสุดให้เราไปที่กูเกิลไดร์ฟ ส่วนตัวของเรา สร้างโฟลเดอร์ขึ้นมา Coffee Pos V7

คลิกเข้าไปข้างในโฟลเดอร์ แล้วคลิก Create เพื่อสร้างไฟล์ตารางฐานข้อมูล กำหนดชื่อไฟล์ Google Drive เป็น Coffee Pos V7

สร้างตารางแรกชื่อว่า products

จำนวน 2 คอลัมน์คือ 

ID

Product name

สร้างตารางขึ้นมากำหนดชื่อเป็น items

จำนวน 7 คอลัมน์

ID

Category

Name

Sub category

Unit price

Photo

Qty

จากนั้นไปที่ appsheet.com

คลิก New App 

เลือกสร้างแอพ จากฐานข้อมูล Google sheet 

ตั้งชื่อแอพเป็น Coffee Pos V7 

แท็บ data คลิกตาราง Products กำหนด ชนิดของข้อมูลที่เหมาะสม และสอดคล้องกับความต้องการใช้งาน 

ID เป็น Text และ ค่าเริ่มต้นเป็น UNIQUEID() และเป็น Key หลักของตารางด้วย

Product name เป็น Text และกำหนดแสดงป้ายข้อมูล Label


ตาราง items

คอลัมน์ Category กำหนดเป็น Enum  และเพิ่มตัวเลือกเป็น กาแฟ   ชา   นม  โซดา

คอลัมน์ Sub category เป็น Enume ตัวเลือก ร้อน เย็น ปั่น

คอลัมน์ Name เป็น Ref และระบุตารางเป็น Products

คอลัมน์ Qty ในช่อง show ใส่สูตร 

Context("Viewtype")<>"Form"





มาที่ UX มุมมอง Product เป็นแบบ Desk หรือ Table  แต่ตำแหน่ง Position เป็น Menu 

ให้บันทึกข้อมูล กาแฟที่มีขายในตลาดลงไป สัก 2 ถึง 3 รายการ 

เช่น ลาเต้   คาปูชิโน่   เอสเพราโซ่ 



สำหรับวิว items

ให้เรา กำหนดเป็น Desk และตำแหน่งเป็น Ref

ปิด Action bar ด้วย

จากนั้นเพิ่มสินค้าเข้ามาในระบบ 2 -3 รายการ พร้อมรูปภาพ 

จบ EP1 ---------

เริ่ม EP2 ------เราจะสร้างตารางเพิ่มอีก 2 ตาราง คือ Sales และ Invoice  

ตารางแรก Sales มีคอลัมน์ 

ID         

status

Date time

Item ID

Item Name

Unit price

Qty

Subtotal

Invoice no


สูตรที่ต้องใช้งาน 
คอมลันน์ Unit price
lookup([_thisrow].[Item id],"Items","Item ID","Unit Price")

คอลัมน์ Subtotal
[unit price]*[QTY]

ค่าเริ่มต้น
คอลัมน์ invoice no ใส่
MAX(Invoice[Invoice])+1

คอลัมน์ Item name เป็น Ref แหล่งตารางเป็น Products


ตาราง Invoice
มีจำนวน 1 คอลัมน์ คือ Invoice 
ใส่ค่าแรกลงไปด้วยกำหนดเป็น 20230000

การสร้างตัวกรองข้อมูล slice จากตาราง Sales 
ตั้งชื่อตัวกรองเป็น Cart 
กำหนดเงื่อนไขเป็น 
isblank([status])

ติ้กไม่อนุญาติการเพิ่ม Add ข้อมูล

การสร้างวิวมุมมอง 2 วิวด้วยกันคือ 
Cart เป็นชนิดตาราง แหล่งตารางคือ Cart  ตำแหน่งเป็น Ref
จัดกลุ่มโดย Date time
Group aggerate เป็น SUM: Subtotal

เรียงคอลัมน์ Item name,    Unit price,     Qty,     Subtotal

 ต่อไปสร้างมุมมองขึ้นมาคือ POS โดยกำหนดเป็น Dashboard 
เพิ่ม entries เข้ามาแสดงจำนวน 2 วิวด้วยกันคือ 
Items   และ 
Cart

--------- EP3-------------
จะเป็นการใช้คำสั่ง Action เพื่อควบคุมการทำงานของแอพพลิเคชั่นให้ทำงาน ตามที่เราต้องการ 
คลิกแท็บ Action ไปตาราง Items คลิก + 
กำหนดชื่อเป็น Add to cart
Do this : add a new row to another table...

Table to add to: Sales

Set these columns:
Item id = [Item ID]
Item name = [name]
Qty = [Qty]
ติ้ก Do not display 
-----------------------------

สร้าง action สองคือ Input Qty

Do this: Set the value of some column in this row

Set these columns: Qty = input(qty,"")

ติ้ก Do not display 
---------------------

สร้าง action สามคือ Set qty to zero

Do this: Set the value of some column in this row

Set these columns: Qty = " "

ติ้ก Do not display 

-----------------------------------------
จัดเรียงลำดับการทำงานของแอกชั่น โดยสร้าง Group action
กำหนดชื่อเป็น Item group action

Do this: Grouped execute a sequence of actions

เรียงแอคชั่น ตามลำ
Input Qty
add to cart
set qty to zero
ติ้ก Do not display 
-----------------------------------

กลับไปที่แท็บ UX 
มุมมอง POS คลิก behavior 
ตรง Event Actions เลือก Item group action
คลิก Save

----------------- จบ EP3----------------------

 _______ EP4___________
ขั้นแรกไปที่แท็บ UX แล้วคลิกวิวหรือมุมมอง Item 
ไปที่ คำสั่ง behavior แล้วกำหนดค่าของ Event action เป็น item group action 
คลิก Save 
สร้างตารางเก็บข้อมูลชำระเงินค่าสินค้า คือ payment จำนวน 10 คอลัมน์ดังนี้
ID
Date
Time
Payment type
Amount paid
Invoice no
Total sale
Change
Cashier ID
Customer

นำเข้าตารางในแอพให้เรียบร้อยแล้วคลิก แท็บ data และตาราง payment เพื่อกำหนดค่าแต่ละคอลัมน์
ดังนี้
ค่า key หลักตารางคือคอลัมน์ Invoice no

คอลัมน์ payment type เป็น Enum ใส่ค่า เงินสด และ ลงบิล


isblank([_THIS]) ในเงื่อนไข show ของคอลัมน์ Date และ Time

คอลัมน์ Total sale ใส่สูตร Sum(Select(Sales[Subtotal],[Invoice no]=[_THISROW].[invoice no]))

คอลัมน์เงินทอน Change ใส่สูตร [amount paid]-[total sale]
และเงื่อนไข show ใส่ [amount paid]>=[total sale]


คอลัมน์ invoice no ใส่ค่าเริ่มต้น Max(Invoice[Invoice])+1

ดูเพิ่มคอลัมน์เสมือน ขึ้นมาเองจากระบบคือ related sale

สร้างเอง 1 คอลัมน์ ชื่อ File และใส่สูตร Concatenate([invoice no],".pdf")

จากนั้นไปที่แท็บ UX
สร้างมุมมองชนิด เมนูขึ้นมาชื่อ payment
จัดกลุ่ม by Date

Group aggerate : Sum total sale
เรียงคอลัมน์ Order 
Date
Time
Invoice no
Payment type
Total sale
Amount paid

จบขั้นตอนของ EP4 ----------

-----------ตอนที่ EP5 --------------- สร้างไอค่อนจ่ายเงินค่าสินค้า


มาที่แท็บ Action 
คลิก + ตาราง sale เพื่อสร้าง action ขึ้นมาสำหรับการคัดลอกหมายเลขบิลขายจากตาราง sale ไปเขียนลงยังตาราง invoice 
ชื่อของ Action = copy invoice no
ตาราง : sale
Do this : add a new row to another table
Table to add to: invoice
set these column : invoice = [invoice no]
prominence = do not display

คลิก UX แล้วคลิกวิว payment Form  คลิก behavior แล้วคัดลอก LINKTOVIEW("Payment_Form")
กลับไปที่ แท็บ Action 
ตาราง sale คลิก + 
กำหนดชื่อเป็น payment form
table : sale
Do this : Go to another view 
Target: = LINKTOVIEW("Payment_Form")
prominence= Display as primary

เลื่อนลงไปที่ คำสั่ง behavior กำหนดค่าไอค่อนตะกร้าสินค้าแสดงเฉพาะมีรายการขายเท่านั้น ใช้สูตร 
isnotblank(Select(Cart[Subtotal],True))
คลิก need confirm information 
ข้อความเป็น ยืนยันชำระค่าสินค้า?

ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างตารางแม่และลูก
ไปที่แท็บดาต้า ตาราง sale 
คอลัมน์ invoice no เป็น ref และระบุแหล่ง source table เป็น payment 
อย่าลืมติ้ก is a part of 

---------- จบ EP5 --------------------------------


ระบบแอพงานคลังวัสดุโรงเรียน

 ระบบแอพชีพและกูเกิลชีท สำหรับงานบริหารคลังวัสดุสำนักงาน หรือโรงเรียน 

สร้างฐานข้อมูลบนกูเกิลไดร์ฟ กำหนดโพลเดอรชื่อ school inventory

สร้างตารางฐานข้อมูลจำนวน 5 ตารางคือ 

  1. inventory 
  2. stock in
  3. stock out
  4. stock in form
  5. stock out form

ขั้นต่อมาไปที่ appsheet สร้าง new app นำเข้าตารางข้อมูลเข้ามาทั้งหมด 

การจัดการตารางคลังวัสดุ inventory

กำหนดค่าคีย์หลักเป็น item code 

กำหนดค่าลาเบลเป็น item name

เพิ่มคอลัมน์เสมือน 1 คอลัมน์ตั้งชื่อเป็น current stock และใส่สูตรลงไป

SUM(

SELECT(

Stock in[QTY],

[item code] = [_THISROW].[item code]

)) - 

SUM(

SELECT(

Stock out[QTY],

[item code] = [_THISROW].[item code]

)) + 

[Available stock]

ขั้นต่อมาไปที่แท็บ UX กำหนดค่าหน้าจอการทำงานของมุมมอง inventory เป็นแบบ Desk และเพิ่มข้อมูลเข้ามาในระบบเพื่อเป็นกรณีตัวอย่าง 2-3 รายการ


ขั้นตอนต่อมา แท็บ Data 

กำหนดค่าตาราง stock in ดังนี้

key หลักเป็น ID และลาเบลเป็น item name

คอลัมน์ date และ time ใส่สูตรเป็น today() และ timenow()

คอลัมน์ item code ในช่อง valid if ใส่สูตร select(inventory[item code],true)

คอลัมน์ item name ช่อง formula ใส่สูตร Any(select(inventory[item name],[_THISROW].[item code]=[item code]))

 คอลัมน์ unit price ช่อง formula ใส่สูตร Any(select(inventory[unit price],[_THISROW].[item code]=[item code]))


คอลัมน์ amount ใส่สูตร [unit price]*[QTY]

คลิกปุ่ม + เพิ่มคอลัมน์จำลอง กำหนดชื่อเป็น Available stock และใส่สูตร Any(Select(inventory[Available stock],[_THISROW].[item code]=[item code]))


คลิกปุ่ม + เพิ่มคอลัมน์จำลอง กำหนดชื่อเป็น New available stock และใส่สูตร [Available Stock]-[QTY]



------

กำหนดค่าตาราง stock in form ดังนี้

คีย์หลัก Receipt no และลาเบลเป็น Person name

คอลัมน์ date และ time ใส่สูตรเป็น today() และ timenow()

คอลัมน์ Receipt no เข้าไปที่ค่าเริ่มต้น initial value ใส่สูตร randbetween(10000,100000)


คลิกปุ่ม + เพิ่มคอลัมน์จำลอง กำหนดชื่อเป็น stock in  และใส่สูตร ref_rows("Stock in","Receipt No")


 คลิกปุ่ม + เพิ่มคอลัมน์จำลอง กำหนดชื่อเป็น Total amount  และใส่สูตร Sum(Select(Stock in[Amount],[_THISROW].[Receipt No]=[Receipt No]))


----


กำหนดค่าตาราง stock out (คล้ายกับตาราง stock in เลย)


key หลักเป็น ID และลาเบลเป็น item name

คอลัมน์ date และ time ใส่สูตรเป็น today() และ timenow()

คอลัมน์ item code ในช่อง valid if ใส่สูตร select(inventory[item code],true)

คอลัมน์ item name ช่อง formula ใส่สูตร Any(select(inventory[item name],[_THISROW].[item code]=[item code]))

 คอลัมน์ unit price ช่อง formula ใส่สูตร Any(select(inventory[unit price],[_THISROW].[item code]=[item code]))


คอลัมน์ amount ใส่สูตร [unit price]*[QTY]

คลิกปุ่ม + เพิ่มคอลัมน์จำลอง กำหนดชื่อเป็น Available stock และใส่สูตร Any(Select(inventory[Available stock],[_THISROW].[item code]=[item code]))


คลิกปุ่ม + เพิ่มคอลัมน์จำลอง กำหนดชื่อเป็น New available stock และใส่สูตร [Available Stock]-[QTY]

----------

กำหนดค่าตาราง stock out form ดังนี้

คีย์หลัก Receipt no และลาเบลเป็น Person name

คอลัมน์ date และ time ใส่สูตรเป็น today() และ timenow()

คอลัมน์ Receipt no เข้าไปที่ค่าเริ่มต้น initial value ใส่สูตร randbetween(10000,100000)


คลิกปุ่ม + เพิ่มคอลัมน์จำลอง กำหนดชื่อเป็น stock out  และใส่สูตร ref_rows("Stock out","Receipt No")


 คลิกปุ่ม + เพิ่มคอลัมน์จำลอง กำหนดชื่อเป็น Total amount  และใส่สูตร Sum(Select(Stock out[Amount],[_THISROW].[Receipt No]=[Receipt No]))


จบขั้นตอนการกำหนดค่าของตาราง ต่อไปจะมาพูดถึงการกำหนดค่าส่วนติดต่อผู้ใช้งานหรือ UX กัน

จะแยกเป็น 2 ส่วนคือ มุมมองหลัก จำนวน 3 วิวคือ inventory , new stock in , new stock out

มุมมอง new stock in 

ชนิดของมุมมองเป็นแบบฟอร์ม Form กำหนดค่าต่างๆ ดังนี้ 

For this data เลือกตารางชื่อ stock in Form

คอลัมน์ order เรียงดังนี้ date ,time,receipt no, person name ,person phone

และ finish view เป็น stock in form detail 


---

มุมมอง new stock out

ชนิดของมุมมองเป็นแบบฟอร์ม Form กำหนดค่าต่างๆ ดังนี้ 

For this data เลือกตารางชื่อ stock out Form

คอลัมน์ order เรียงดังนี้ date ,time,receipt no, person name ,person phone

และ finish view เป็น stock out form detail 

--------

การสร้างมุมมองเสริมการทำงานของแอพ จำนวน 6 วิวด้วยกันในกลุ่มของ เมนูวิว 

มุมมอง stock in

For this data เป็น stock in

view type เป็น tabel

Position เป็น menu

จัดเรียงข้อมูล sort by date

Group aggerate เป็น Sum ::Amount 

จัดเรียงคอลัมน์ Column order 

IDReceipt Nodatetimeitem codeitem nameunit priceQTYAmount

------

มุมมอง stock out

For this data เป็น stock out

view type เป็น tabel

Position เป็น menu

จัดเรียงข้อมูล sort by date

Group aggerate เป็น Sum ::Amount 

จัดเรียงคอลัมน์ Column order 

IDReceipt Nodatetimeitem codeitem nameunit priceQTYAmount

------

มุมมอง stock in Form

For this data เป็น stock in form

view type เป็น Form

Position เป็น menu

------

มุมมอง stock out Form

For this data เป็น stock out form

view type เป็น Form

Position เป็น menu

--------

มุมมอง stock in history 

For this data เป็น stock in form

view type เป็น table

Position เป็น menu

เรียงคอลัมน์ เป็น 

DateTimeReceipt NoPerson NamePerson Phone
-------

มุมมอง stock out history 

For this data เป็น stock out form

view type เป็น table

Position เป็น menu

เรียงคอลัมน์ เป็น 

DateTimeReceipt NoPerson NamePerson Phone




สร้างแอพขายกาแฟด้วย Appsheet ตอนที่ 1

EP1 บันทึกข้อมูลสินค้า


Intro แสดงรูปแบบ พริวิวขั้นตอนการทำงานของแอพ แดงเมนูสินค้า การเลือกสินค้าและจำนวน การชำระค่าสินค้า การกรองข้อมูลรายการขาย และส่งออกในรูปแบบไฟล์ PDF



ออกแบบตาราง ออกแบบ UX และบันทึกข้อมูลตัวอย่าง


แนวคิดการ ควบคุมการนำเข้าข้อมูล หมวดหมู่สินค้า รายชื่อสินค้า ร้อน เย็น ปั่น

UX เป็น Desk และปิดการแก้ไขข้อมูล edit del จัดกลุ่มตาม หมวดหมู่ การแสดงข้อมูล ภาพตัวอย่างสินค้า รายชื่อสินค้า ราคาสินค้า และ รูปแบบของการชงสินค้า



จบขั้นตอนว่า ถ้าแตะก็จะ เข้าไปในในรายละเอียดของแต่ละรายการสินค้า ซึ่งในการทำ แอพ POS จะต้องเปลี่ยนรูปแบบเป็น เรียกหน้า input จำนวนสินค้าลงไปแทน ตามต่อใน EP2

ขั้นตอนแรก ไปที่ Google drive ของเรา แล้วสร้างโพลเดอร์ขึ้นมา กำหนดชื่ออะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับงานที่กำลังจะทำ  ตัวอย่างผมกำหนดเป็น COFFEE POS V5
เข้าไปในโพลเดอร์ดังกล่าว แล้วสร้างตารางฐานข้อมูลด้วย Sheet ขึ้นมา ตั้งชื่อ sheet ว่า COFFEE POSV5 เช่นกัน 
สร้างตารางขึ้นมาเก็บข้อมูลแสดงรายการเมนูของร้านกาแฟ  ผมตั้งเป็น Menu และ มีจำนวนคอลัมน์ในการบันทึกรายการดังนี้ 
ตาราง Menu

Menu IDCategoryNameUnit PricePhotoQty

ในคอลัมน์ Qty จะปิดการองเห็น โดยไปที่ show แล้วใส่ Context("ViewType")<>"Form"

ตารางสนับสนุนตั้งชื่อเป็น Products สำหรับเก็บข้อมูลสินค้า ในนี้คือ รายการกาแฟและชาต่างๆ 

ตาราง Products 
Product IDProduct Name

ตัวอย่างการกำหนดชนิดข้อมูลของคอลัมน์ดูในคลิปบนช่องยูทูป 

การกำหนด มุมมอง View ในการติดต่อกับผู้ใช้งาน ดังนี้ 
ไปที่คำสั่ง UX แล้ววสร้างวิวแรกขึ้นมา คือ Menu 
รูปแบบการแสดงเป็นแบบ Desk
กำหนดค่าตำแหน่งเป็น ref 
กำหนดค่าแสดงข้อมูลอื่นๆ ตามเหมาะสม ดูในคลิปยูทูป และกำหนดค่า Action menu เป็น Disable
เพื่อ ไม่ให้แสดงปุ่ม edit และ del 

ไปที่ UX สร้างมุมมองที่สองขึ้นมา ตั้งชื่อเป็น POS 
ชนิดมุมมองเป็น Dashboard
ตำแหน่งเป็น Center และ Entry เป็น วิวแรกที่สร้างขึ้นมาคือ menu นั้นเอง 
อย่าลืมเปิดคำสั่ง show primary action ด้วย เพื่อจะสามารถเพิ่มรายการสินค้าเข้าในระบบได้ 
ลองเพิ่มรายการสินค้ากาแฟเข้ามา สัก 2-3 รายการ เพื่อเป็นตัวอย่างประกอบการฝึก


ชมคลิปประกอบ

วิธีการสร้างไฟล์ PDF จากแอพชีท

 แอพชีพ เป็นโปรแกรมสร้งแอพที่ง่าย และมีประสิทธิภาพตัวหนึ่ง วันนี้ผมจะมาแนะนำความรู้สำหรับการ  Gen หรือสร้างไฟล์ PDF ด้วยแอพชีพ กัน เพื่อนำเสนอข้อมูลหรือพิมพ์เอกสาร รายงานประกอบการนำเสนอ หรืออื่นๆ ตามวัตถุประสงค์ 

CONCATENATE("My Drive/appsheet/data/EvalSF-2250971/mypdf2/mypdf2",[ID],".pdf")


"/mypdf2"


concatenate("mypdf2",[ID])


อย่าลืม Disable timestamp


ไฟล์ Google sheet และไฟล์ Doc ที่ใช้เป็นแม่แบบ PDF จะต้องอยู่ใน โฟลเดอร์ของแอพชีพ 

ขั้นตอน 

Google drive สร้างไฟล์ บันทึกข้อมูล ขึ้นมา 

สร้างแอพใหม่ Appsheet ลิงค์ไปตารางที่พึงสร้าง 

กำหนดค่า คอลัมน์ ให้สอดคล้องกับชนิดข้อมูล 

สร้าง New bot ขึ้นมา เพื่อ Gen ไฟล์ PDF ให้เรา ใช้เทคนิค create และใช้เทคนิค Move ไฟล์ ไปในโฟลเดอร์เดียวกันกับแอพชีพ 

แนะนำการสร้าง โฟลเดอร์ขึ้นมาใหม่ เพื่อเก็บไฟล์เอกสาร PDF 

การสร้างลิงค์ไฟล์จากแอพชีพ เพื่อเปิดไฟล์เอกสาร PDF